สิ้นสุดการรอคอย ! สุริยะ สั่งปิดจ๊อบถนนพระราม 2 สิ้นปีนี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในส่วนของโครงการของกระทรวงคมนาคม ที่จะต้องเร่งรัดดําเนินการให้เสร็จสิ้น คือ โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ซึ่งก็มีการรับสั่งหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกสัญญาในโครงการให้เร่งดําเนินการให้เสร็จตามแผน และ ตนมีการติดตามการดําเนินงานต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตนยังยืนยันว่า ทุกโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 จะต้องเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ตามแผนที่วางไว้

ความคืบหน้าการก่อสร้างบนถนน พระราม 2 ปัจจุบันทางกระทรวงฯ มีการเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดใน 2 สัญญาหลัก ของโครงการ ทางพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 สายบางขุนเทียน- เอกชัย-บ้านแพ้ว คือ สัญญา 4 และ สัญญา 7 ซึ่งการก่อสร้างยังคงอยู่ในขั้นตอนการบริหารจัดการของทีมก่อสร้าง ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการติดตามความคืบหน้าการดําเนินงานอย่างใกล้ชิดในทุกสัปดาห์เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่กําหนดไว้

นายสุริยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการสําคัญที่กําลังเร่งผลักดันศึกษาเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติ โดยเฉพาะโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ที่ถือเป็นโครงข่ายหลักในการรองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้า

นโยบายกระทรวงคมนาคมชัดเจนว่า หลังจากโครงการมอเตอร์เวย์สายหลักที่เชื่อมโยงกรุงเทพฯ กับภาคตะวันตก (พระราม2) แล้วเสร็จ จะเร่งผลักดันเส้นทางใหม่เชื่อมจากนครปฐมไปถึงชะอํา จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นเส้นทางรองรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่หัวหินและภาคใต้ โดยไม่ต้องกระจุกบนทางหลวงพระราม 2 เพียงเส้นเดียว

โครงการดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงนครปฐม–ปากท่อ ที่สามารถดําเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้ไขแนวเส้นทางมากนัก และช่วงปากท่อ–ชะอํา ซึ่งเคยมีอุปสรรคด้านแนวเส้นทางในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี แต่ขณะนี้ได้มีการปรับแนวใหม่เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน และเตรียมนําเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายในเร็ว ๆ นี้

นายสุริยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการต่อขยายทางหลวงพระราม 2 ไปถึงวังมะนาว เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยย้ําว่าโครงการสะพานคู่ขนานบนพระราม 2 ที่กําลังดําเนินการอยู่นั้น เป็นเพียงโครงสร้างเสริมสําหรับการจราจรท้องถิ่น (local traffic) แต่ไม่เกี่ยวกับโครงการมอเตอร์เวย์สายหลักที่จะต้องรองรับการเดินรถระหว่างภูมิภาค

ด้านการพัฒนาโครงข่าย รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 หลังจากที่ได้หารือกับ ผู้แทนจาก สํานักสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว เบื้องต้นมีแนวโน้มที่ดี และคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากบอร์ดของ สศช. เร็ว ๆ นี้ และเตรียมการเสนอเข้า ครม. ทั้งหมด 6 เส้นทาง ต่อไป แแต่จะเร่งดําเนินการ 3 เส้นทางแรกที่ถือว่าเป็น “จุดคอขวดสําคัญ” ของระบบราง ได้แก่ ปากน้ําโพ-เด่นชัย และสายใต้ที่จะต่อขยายจาก ชุมพร-สุราษฎร์ธานี และ สุราษฎร์ธานี-สงขลา