วานนี้ (15 สิงหาคม) เวลา 22.50 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจําปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระ 2 และ 3 ด้วยคะแนน 257 ต่อ 230 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากผู้ลงมติ 487 คน

จากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี พ.ศ. 2569 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสําคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 

รวมถึงนโยบายและแผนระดับชาติว่า ด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และการดําเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคํานึงถึงความจําเป็นความต้องการในพื้นที่และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ 

สําหรับข้อคิดเห็น คําแนะนํา ข้อเสนอ รวมทั้งความห่วงใยที่สมาชิกได้เสนอนั้น รัฐบาลขอรับไว้ด้วยคําขอบคุณและจะนําไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดําเนินงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้งบประมาณมากที่สุด นอกจากนี้ขอขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ได้เสียสละเวลาร่วมมือพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 อย่างเต็มที่จนสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ส่วนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการรัฐบาลจะนําไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดําเนินงาน เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

พิชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ความมั่นใจว่า นโยบาย มาตรการ และงบประมาใสได้ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้ รัฐบาลจะนําไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และแผนงานที่กําหนด โดยรัฐบาลจะกํากับดูแลเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และบรรลุสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่ได้กําหนดไว้ เพื่อขับเคลื่อนประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล และความมุ่งมั่นของสมาชิกทุกท่านต่อไป