“เสธ.หมึก” เผย UCI-IOC หนุนไทยเต็มสูบผ่านโครงการ DNSS ส่งนักปั่นฝึกศูนย์โลก 3 ปี ลุยคว้าโควตาโอลิมปิก 2028 พร้อมยกระดับโค้ช-ผู้ตัดสิน-เสือภูเขา สร้างระบบพัฒนาที่ยั่งยืน

สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) และ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ผ่านโครงการ Development of National Sport System (DNSS) ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระดับสูงที่มุ่งเสริมสร้างรากฐานการพัฒนาบุคลากรและนักกีฬาจักรยานไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายสําคัญคือการคว้าโควตาเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2028 ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

พลเอกเดชา เหมกระศรี หรือ “เสธ.หมึก” นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังประชุมออนไลน์กับผู้ประสานงานจาก UCI ว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2569 โดยจะสนับสนุนนักกีฬาดาวรุ่งของไทยในการเก็บตัวและฝึกซ้อมต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี ณ ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (World Cycling Center: WCC) เมืองเอเกิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกชั้นนําของโลกที่เพียบพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์ วิทยาศาสตร์การกีฬา และสนามแข่งขันมาตรฐาน

นักกีฬาที่ถูกเสนอชื่อเข้าสู่โครงการเบื้องต้น ได้แก่

• จ.ต.นรเศรษฐ์ธาดา บุญมา เจ้าของเหรียญเงินรายการสปรินท์จากศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก 2024 ที่จีน และเหรียญทองคีรินจากชิงแชมป์เอเชียที่อินเดีย

• น.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ดาวรุ่ง
  ในขณะที่นักปั่นถนนรายอื่นๆ จะพิจารณาจากผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนักกีฬาแล้ว โครงการ DNSS ยังครอบคลุมถึงการพัฒนา จักรยานเสือภูเขา (MTB) ของไทยอย่างเป็นระบบ โดยมีแผนจัดอบรมโค้ช MTB ในปี 2026 และเก็บตัวนักกีฬารุ่นเยาวชนและทั่วไป เพื่อเตรียมลุยศึกชิงแชมป์เอเชียที่อุซเบกิสถาน พร้อมวางแผนส่งตัวผู้ฝึกสอนและนักกีฬาที่โดดเด่นเข้าร่วมฝึกซ้อมระยะยาวกับ WCC ต่อไป

ด้าน การพัฒนาผู้ตัดสิน UCI เล็งเห็นปัญหาขาดแคลนผู้ตัดสินนานาชาติในเอเชีย จึงร่วมกับสมาคมฯ เปิดอบรม “หลักสูตร Elite National Commissaire ประเภทถนน” ณ จ.สุพรรณบุรี ระหว่าง 11–15 กันยายนนี้ โดยจะมีผู้เข้าร่วมจากหลายประเทศ รวมทั้งผู้ตัดสินไทยรุ่นใหม่จํานวน 12 คน ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่จะยกระดับบุคลากรสู่เวทีระดับนานาชาติ

พลเอกเดชา กล่าวย้ําว่า การที่ UCI ให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างจริงจัง เป็นผลจากการทํางานอย่างต่อเนื่องของสมาคมฯ ที่สร้างผลงานระดับนานาชาติได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าโควตาโอลิมปิก 2024 ที่ปารีสถึง 4 ที่นั่ง รวมถึงการสร้างชื่อเสียงในหลายรายการทั่วโลก

UCI ยังมองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์ฝึกจักรยานระดับภูมิภาค ด้วยจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์ บุคลากร และเทคโนโลยี ทว่าอุปสรรคสําคัญคือยังขาดสนามเวลโลโดรมในร่มขนาดมาตรฐาน 250 เมตร ซึ่งจําเป็นอย่างยิ่งต่อการฝึกซ้อมและรองรับการแข่งขันระดับโลก

“หากมีการลงทุนสร้างสนามเวลโลโดรมในร่ม จะทําให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางจักรยานของภูมิภาคอย่างแท้จริง” พลเอกเดชา กล่าวสรุป

#จักรยานไทยสู่โอลิมปิก #เสธหมึก #UCI #IOC #WCC #นักปั่นไทย #จักรยานเยาวชน #DNSS #จักรยานไทย #พัฒนาผู้ตัดสินจักรยาน #เวลโลโดรมในร่ม #RoadToOlympics2028 #จักรยานเสือภูเขา #ThailandCycling #สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย #จักรยานเอเชีย