ตั้งศูนย์รับมือภาษีมะกัน ‘พณ.’ ลุยวันสต็อปเซอร์วิส 7 ส.ค.ดูแลธุรกิจครบวงจร ‘จตุพร’ เร่งคลอดมาตรการ อุ้มผู้ค้าชายแดนไทยเขมร

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารระดับสูงและอธิบดีกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาคณะได้เข้าเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 แห่งในอ.เดชอุดม

นายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาสำคัญอีกด้านคือผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน ทั้งภาคเกษตรกรรมและการค้า ได้รับผลกระทบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ กระทรวงพาณิชย์จึงเตรียมมาตรการช่วยเหลือในหลายด้าน เช่น การจัดทำซอฟต์โลน เพื่อเสริมสภาพคล่อง การหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบ การกระจายสินค้าจากพื้นที่ชายแดนไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ และการเจรจาหาเส้นทางโลจิสติกส์ที่สะดวกและลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ สำหรับสินค้าเกษตร

โดยเฉพาะมันสำปะหลัง พืชเศรษฐกิจสำคัญของอุบลราชธานี ปัจจุบันราคาต่ำกว่าปีก่อนราว 10% แม้ปริมาณส่งออกจะมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิต จัดหาท่อนพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้านทานโรคใบด่าง พร้อมส่งเสริมการแปรรูปเป็นอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อลดปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งวางมาตรการลดต้นทุนปุ๋ย ยา และค่าแรง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมยังทำงานเชิงรุกหลังจากสหรัฐประกาศมาตรการภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) อัตรา 19% ทั้งรับฟังข้อเสนอภาคเอกชนและเก็บข้อมูลรอบด้านว่าได้รับผลกระทบอย่างไร ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือทั้งผลกระทบจากภาษีทรัมป์ เบื้องต้น

1.หารือกลุ่มธนาคารผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) 2.มอบสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก หาตลาดใหม่ๆ และเก็บข้อมูลรายประเทศถึงสถานการณ์และการปรับนำเข้า ส่งออก และลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นในระยะถัดไป

น.ส.สุนันทา กล่าวว่า 3.เฝ้าระวังผลกระทบ 2 ด้าน ทั้งสินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐ เสียภาษี 19% และสินค้าสหรัฐที่ส่งมาไทยภาษี 0% เรื่องนี้ทีมไทยแลนด์ เตรียมรับผลกระทบจากความต้องการผลักดันสินค้าของสหรัฐหลายรายการมาไทย ทั้งนี้ ยังเฝ้าระวังและเข้มงวดในสินค้าสวมสิทธิ สินค้าด้อยคุณภาพ รวมถึง Transshipment หรือสินค้าถ่ายลำสินค้า เรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าดูแล ประเด็นสวมสิทธิเป็นเรื่องที่กังวล ตระหนกและตระหนัก ทีมเจรจาคุยกันมาตลอดและเตรียมพร้อมรับมือ จากนี้จะมีมาตรการที่เตรียมไว้ออกมาต่อเนื่อง

และ4.กรมจะมีการทบทวนและปรับระเบียบและเพิ่มเติมโครงการช่วยเหลือ ส่งเสริม และกระตุ้นเศรฐกิจ เริ่มด้วยวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เปิดให้บริการศูนย์ One Stop Service ที่ศูนย์ส่งออกสินค้า ถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมทุกหน่วยงานด้านให้ใบอนุญาต ให้คำปรึกษา ยื่นขอสินเชื่อ และโชว์รูมย่อยของหน่วยงานและสินค้าเด่น กำลังเร่งเพิ่มมาตรการหรือโครงการให้ความช่วยเหลือในการเปิดตลาดส่งออก