พลตรี กิตติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่2 พร้อมด้วย
พันเอก กัมปนาท วาพันสุ รอง เสนาธาการกองทัพภาคที่ 2
เผยถึงสถานการณ์ประจำวัน ถึงกรณีการวางกำลังควบคุมพื้นที่โดยรอบปราสาทตาควาย
ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้อย่างเท่าเทียม สำหรับพื้นที่บริเวณลานด้านหน้าปราสาทตาควายซึ่งเดิมทั้งสองฝ่ายใช้เป็นที่พักและเป็นพื้นที่ซึ่งประชาชนทั้งสองประเทศเคยใช้เพื่อการท่องเที่ยว
โดยปัจจุบันเชื่อว่ามีการนำทุ่นระเบิด PMN2 ที่เคยทำร้ายทหารไทยในพื้นที่ช่องบกและช่องอานม้ามาวางเอาไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอนุสัญญา ออตตาว่า นอกจากนั้นการที่ฝ่ายกัมพูชานำกำลังเข้าไปวางในโบราณสถานปราสาทตาควาย
ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน ขณะที่สถานการณ์อื่นๆยังพบ ความเคลื่อนไหวของกำลังประเทศกัมพูชาในการเพิ่มเติมกำลังและเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย –กัมพูชา รวมทั้งตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ขณะที่
การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัว
ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนเนื่องจากกระสุนหมด ในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย นั้น ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดฐาน
เข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ต่อพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจ พร้อมยังได้ควบคุมตัวทหารกัมพูชาที่บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์

บรรยากาศที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จังหวัดสุรินทร์ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยอดีตคณะผู้บังคับบัญชา ลงพื้นที่มอบสิ่งของและเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่อพยพมาพักอาศัยภายในศูนย์พักพิงชั่วคราวจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งมีประชาชนเข้าพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่อพยพมาจากพื้นที่อำเภอพนมดงรัก อำเภอกาบเชิง และอำเภอสังขะ โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนที่ต้องอพยพจากบ้านเรือน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสูงพักพิงชั่วคราวก่อนเดินทางกลับ

/// จบตัด ///