รมว.สธ. แจงเหตุโดรนบินวนใกล้โรงพยาบาล เป็นมาตรการความปลอดภัย ย้ำป่วยฉุกเฉินพร้อมรักษาเต็มที่ตามหลักสิทธิมนุษยชน รอความชัดเจนหลังถก GBC 4 ส.ค. นี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาสยบกระแสข่าวลือกรณโรงพยาบาลในประเทศไทยปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยชาวกัมพูชา โดยยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ยังคงให้การดูแลรักษาผู้ป่วยชาวกัมพูชาตามปกติบนหลักมนุษยธรรม

นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า มาตรการที่โรงพยาบาลดำเนินการคือ การระงับการทำงานชั่วคราวของบุคลากรชาวกัมพูชาที่ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเท่านั้น ไม่ใช่การปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยแต่อย่างใด โดยสาเหตุสำคัญมาจากประเด็นด้านความมั่นคงและความปลอดภัย หลังจากได้รับแจ้งจากกองทัพว่าตรวจพบการบินของโดรนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

"การให้ล่ามซึ่งเป็นชาวกัมพูชาพักงานไปก่อน เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย ป้องกันทั้งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวบุคลากรเอง และป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลทางการที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเราต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของฝ่ายความมั่นคง" นายสมศักดิ์กล่าว

รัฐมนตรีว่าการ สธ. ย้ำว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่มีผู้ป่วยใหม่ชาวกัมพูชาเข้ารับการรักษา แต่หากมีกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลก็พร้อมให้การรักษาอย่างเต็มที่ตามหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะป็นพลเรือนหรือทหารก็ตาม

"ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีจิตใจสูงส่ง อะไรที่ไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนเราไม่ทำอยู่แล้ว หากมีกรณีฉุกเฉินเราต้องรักษา แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มีใครข้ามแดนมา เพราะหากเป็นทหารที่ข้ามมาก็จะต้องถูกจับกุมตามกฎหมาย" นายสมศักดิ์ระบุ

ทั้งนี้ ทิศทางการดำเนินการหลังจากนี้จะต้องรอความชัดเจนภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงกลาโหมในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงกำหนดต่อไป