วันที่ 14 กันยายน 2568
24 ก.ค. 2568 08:49 | 1110 view
@supakitt
ปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ระอุขึ้นมาอีกระดับ หลังจากที่กำลังพลของกองทัพบกไทย ชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้ทหารของไทย ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย
เมื่อสถานการณ์ไม่ลดระดับความร้อนแรง และฝ่ายกัมพูชายังเดินหน้าเล่นนอกกติกา และยังละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ล่าสุด พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 1 ที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมใช้ "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ" แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
สำหรับ "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ" ถูกใช้ในศึก “เขาพระวิหาร” เมื่อปี 2554 ทำให้กองทัพของกัมพูชาต้องถอยทัพ และเลิกตอแยกับไทยมานายร่วม 10 ปี และปัจจุบัน “แผนจักรพงษ์ภูวนารถ” ยังคงอยู่ และเตรียมงัดออกมาใช้อีกครั้ง หากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ลดระดับความรุนแรง และสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา จะกลับไปเหมือนปี 2554 อีกครั้ง
แผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” เป็นชื่อรหัส “แผนปฏิบัติการทางทหาร” ของกองทัพไทย มีชื่อเต็มคือ Rapid Military Counter Offensive Plan โดยแผนนี้ ถูกคิดค้นและเขียนขึ้นโดย “พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์” หรือ "บิ๊กแก้ว" อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทย เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล ได้รับการยอมรับในฐานะนายทหารม้า ผู้เติบโตในสายหน่วยรบและสายอำนวยการ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนยุทธการต่าง ๆ และชื่อแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” ได้แรงบันดาลใจจาก “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ” ผู้วางรากฐานยุทธศาสตร์ทหารสมัยใหม่ของกองทัพไทย
วัตถุประสงค์ของ “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ”
1.รุกเร็ว จบไว โต้กลับศัตรูให้จบภายในระยะเวลาอันสั้น
2.ตัดขาดกำลังรบของฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้สามารถตั้งตัวได้อีก
3.รักษาความได้เปรียบเชิงพื้นที่และกำลังพล ป้องกันสงครามยืดเยื้อ
หลักการสำคัญของ “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ”
• ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการใด ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศ
• ปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน เน้นการดูแลและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน
• แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ
• ใช้กลไกที่เหมาะสม ดำเนินการตามกรอบและกลไกที่เหมาะสม ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้กำลังโดยทันที แต่พร้อมที่จะตอบโต้หากมีความจำเป็น
ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาไทยและกัมพูชา เกิดข้อพิพาทชายแดน หรือ ความตึงเครียดทางการเมือง หลายครั้ง อย่างเช่น
• ปี 2501 และ ปี 2504 กัมพูชา ได้ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย จากกรณีข้อพิพาทประสาทเขาพระวิหาร
• ปี 2546 หลังเกิดเหตุจลาจล และโจมตีสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ รัฐบาลไทยที่นำโดย นายทักษิณ ชินวัตร ในตอนนั้น ได้เปิดปฏิบัติการที่มีชื่อว่า "โปเชนตง" ส่งเครื่องบินทางการทหารไปอพยพชาวไทย รวมไปถึงนักการทูตทั้งหมดออกจากประเทศกัมพูชา และขับนักการทูตกัมพูชาออกนอกประเทศเพื่อเป็นการตอบโต้
• ปี 2551 และ ปี 2554 เกิดการปะทะกันทางทหาร บริเวณเหนือปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศอย่างรุนแรง
• ปี 2552 ไทยลดระดับความสัมพันธ์เพื่อตอบโต้กัมพูชา กรณีให้การสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งลี้ภัยอยู่ในขณะนั้น
ปมพิพาทไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ เบื้องต้นไทยได้ตอบโต้ทันที โดยได้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศ และจะพิจารณาระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติม
ขณะที่ กองทัพเตรียมพร้อมปฏิบัติตาม "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ" เมื่อมีการสั่งการ และยืนยันจะใช้ทุกกลไกที่มีอยู่ในการดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม เพื่อปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนชาวไทย ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ NBT
ข่าว
14 ก.ย. 2568 16:22 107 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 16:15 102 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:51 87 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:45 89 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:42 97 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:40 98 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:35 114 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:33 98 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 15:29 91 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 13:21 98 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 13:15 704 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 11:55 142 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 11:49 83 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 11:28 344 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 11:07 108 views
ข่าว
14 ก.ย. 2568 11:07 161 views