"ภูมิธรรม–ธีรรัตน์" นำประชุม War Room บกปภ.ช. ติดตามสถานการณ์พายุวิภา ย้ำทุกหน่วยงานพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที หัวใจคือ “การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า”

วันนี้ (23 ก.ค. 2568) เวลา 09.30 น. ที่ห้อง War Room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อน “วิภา” ที่ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ของประเทศไทย ร่วมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้ว่าราชการจาก 30 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับพื้นที่และส่วนกลางผ่านระบบ Video Conference

นายภูมิธรรมระบุว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ พร้อมเน้นย้ำว่า “การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า” โดยเฉพาะระบบ Cell Broadcast มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลดความสูญเสียและสร้างการรับรู้ให้ประชาชน พร้อมเปิดศูนย์บัญชาการตลอด 24 ชั่วโมงในทุกจังหวัด สนับสนุนด้วยกำลังพล เครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ และอากาศยาน เตรียมเข้าช่วยเหลือในทันทีที่เกิดเหตุ

น.ส.ธีรรัตน์ เน้นแนวทาง 6 ข้อในการบริหารสถานการณ์ภัยให้เป็นหนึ่งเดียว รวดเร็ว และรัดกุม โดยเน้นการช่วยเหลือประชาชนเป็นศูนย์กลาง อาทิ การเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง การอพยพก่อนเกิดเหตุรุนแรง การประสานหน่วยงานทุกระดับให้ทำงานอย่างบูรณาการ การตั้งโรงครัวและดูแลสุขภาพผู้ประสบภัย การสำรวจความเสียหายหลังภัย และการรายงานสถานการณ์ให้ชัดเจนทุกระดับ

ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า ได้ออกคำเตือนล่วงหน้าแล้วรวม 24 ครั้ง และมีการระดมเครื่องจักรกลจาก ปภ. เขตต่าง ๆ เข้าประจำการในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีฝนสะสมสูงสุดในจังหวัดน่าน พะเยา และเชียงราย พร้อมเตรียมอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ประจำการที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลำเลียงผู้ประสบภัยในพื้นที่เข้าถึงยากตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุ พายุ “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณจังหวัดน่านแล้ว แต่ยังมีอิทธิพลทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และตาก พร้อมเตือนจับตาร่องมรสุมและพายุใหม่จากฝั่งฟิลิปปินส์ที่อาจก่อตัวตามมา