ดินถล่มที่เกิดจากฝนมรสุมตกหนักได้พัดพารถยนต์ในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือของปากีสถานและฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง รวมทั้งคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 3 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝนมรสุมที่ตกหนักทำให้เกิดเหตุดินถล่มในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือของปากีสถาน จนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน น้ำท่วมฉับพลัน, อาคารพังถล่ม และไฟฟ้าช็อตคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 221 รายทั่วประเทศ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 500 คน นับตั้งแต่ฤดูมรสุมมาถึงเมื่อปลายเดือนมิถุนายน พร้อมกับฝนตกหนักกว่าปกติ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝนตกหนักทำให้เกิดดินถล่มบนทางหลวงในเขตเดียเมอร์ ภูมิภาคกิลกิต-บัลติสถาน และทำให้รถยนต์กว่า 8 คันถูกพัดหายไป

"พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ และยังคงสูญหายอีกกว่า 15 คน" อับดุล ฮามีด เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเขตกล่าว

เขากล่าวว่ามีรถยนต์อย่างน้อย 10 คันถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และกำลังมีปฏิบัติการกู้ภัย ไฟซุลเลาะห์ ฟารัก โฆษกรัฐบาลภูมิภาค ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตกับสำนักข่าวเอเอฟพี ภูมิภาคนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้วยภูเขาสูงตระหง่าน, หุบเขาลึก และแม่น้ำกว้างใหญ่ และฟารักกล่าวว่านักท่องเที่ยวหลายร้อยคนได้รับการช่วยเหลือแล้ว

"เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้เคลื่อนย้ายเศษซากและนำตัวพวกเขาออกจากถนนบนภูเขา ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้จัดเตรียมที่พักพิงฉุกเฉินและความช่วยเหลือ" ฟารักกล่าวเสริม

น้ำท่วมในพื้นที่ได้ปิดกั้นทางหลวงสายหลัก, สัญญาณการสื่อสารเสียหาย รวมถึงบ้านเรือน 50 หลัง, สะพาน 4 แห่ง, โรงแรม 1 แห่ง และโรงเรียน 1 แห่ง ขณะที่พื้นที่ปากีสถานส่วนที่เหลือก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยปกติแล้วฤดูมรสุมทำให้เอเชียใต้มีปริมาณน้ำฝนประจำปี 70-80% และปากีสถานจะมีฝนตกตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน

ฝนที่ตกหนักทุกปีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรหลายล้านคน แต่ก็นำมาซึ่งความเสียหายเช่นกัน ปลายเดือนมิถุนายน มีนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 13 รายเสียชีวิตขณะหลบภัยจากน้ำท่วมฉับพลันบนตลิ่งแม่น้ำที่ยกตัวขึ้น ในปี 2022 น้ำท่วมจากมรสุมทำให้พื้นที่หนึ่งในสามของประเทศปากีสถานจมอยู่ใต้น้ำ และมีผู้เสียชีวิตสะสมราว 1,700 ราย.