รองผบช.น.และทีมงานหอบสำนวนคดีตึกสตง.ถล่มกว่า 9 หมื่นแผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ส่งให้อธ.อัยการคดีอาญาพิจารณา  ตั้งคณะทำงานพิจารณาทันที แม้เวลาเหลือแค่ฝากขังเดียวก็เร่งพิจารณาสั่งคดี รอบคอบทันเวลา 

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2568ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก คณะพนักงานสอบสวนบช.น.คดีตึกสตง.ถล่ม นำโดย   พล.ต.ต. สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)  ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์รองผบช.น. รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน  พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ และคณะ  นำสำนวนการสอบสวนคดี "ตึก สตง.ถล่ม" เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 68.จำนวน 233  แฟ้ม  51 กล่อง 98,926 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหามาส่งมอบให้ นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาผู้รับสำนวน โดยอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 จะเป็นผู้รับผิดชอบสำนวน  พิจารณาสั่งคดี ผู้ต้องหาทั้งนิติบุคคล และ ส่วนตัว รวม 23 รายรวมถึง นายเปรมชัย กรรณสูต นักธุรกิจก่อสร้างชื่อดังร่วมเป็นผู้ต้องหาด้วย

พล.ต.ต.สมควร กล่าวว่า วันนี้ได้มีการนำสำนวนการสอบสวนคดีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ทั้งหมด 233 แฟ้ม 51 ลัง รวม 98,926 แผ่นมาส่งมอบให้กับพนักงานอัยการเพื่อให้ตั้งคณะทำงาน ศึกษา โดยทางเจ้าหน้าที่มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 บริษัท และผู้ต้องหาอีก 16ราย และจะมีการแยกผู้กระทำผิดในข้อหาที่เกี่ยวข้องเช่นการปฏิบัติผิดมาตรฐานหลักเกณฑ์ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงบางรายก็ถูกแจ้งข้อหาการปลอมแปลงเอกสารด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกราย

เมื่อถามว่าตอนนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกฝากอยู่และมีใครได้รับการปล่อยชั่วคราวหรือไม่ พล.ต.ต.สมควร กล่าวว่า ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และทั้งหมดอยู่ระหว่างฝากขัง โดยจะครบระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้ายวันที่ 6 สิงหาคมนี้

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีการส่งข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปให้ ป.ป.ช.พิจารณา  ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำมาเป็นแนวทางในการพิจารณาสำนวนหรือไม่ พล.ต.ต. สมควร กล่าวว่า มีคนมาร้องทุกข์เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. และมีการส่งไปในระยะเวลา 30 วันแล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการขยายผลต่อไปว่าในส่วนที่มีการร้องมีเนื้อหาที่เป็นประเด็นเดียวกันหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาส่งตามไปด้วย ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้หยุดแค่สำนวนนี้ แต่ยังมีการสอบสวนขยายผลอยู่

ด้านนายสัญจัย  จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า ขณะนี้เหลือระยะเวลาฝากขังแค่อีก 1 ฝาก 12วัน  ก็ต้องพิจารณาสั่งคดีให้ทันโดยตนจะตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ แม้จะมีสำนวนจำนวนมาก แต่จะมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่ต้องอขอความช่วยเหลือจากใคร เราจะทำอย่างเต็มที่ ถ้าเกิดความขัดข้องก็จะประสานกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ  คดีนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยตนขอยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าถ้ามีการร้องขอความเป็นธรรมจากฝ่ายผู้ต้องหาเข้ามา แล้วระยะเวลาฝากขังเหลือแค่ 1 ฝาก จะสามารถรับไว้พิจารณาได้ทันหรือไม่ นายสัญจัย กล่าวว่า ถ้ามีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก็ต้องรับไว้ตามระเบียบอยู่แล้ว ส่วนที่ร้องขอความเป็นธรรม มาแล้วซ้ำกับในสำนวนที่สอบสวนไปแล้วหรือไม่ ก็จะต้องพิจารณาดูอีกที แตขอยืนยันว่าจะเร่งพิจารณาสำนวนให้ทันอย่างแน่นอน