×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568

?>

บีโอไอระดมออกแพ็กเกจส่งเสริมลงทุน หนุนผู้ประกอบการไทยปรับตัว รับมือมาตรการภาษีของสหรัฐ

 16 ก.ค. 2568 15:16 | 1725 view

 @pracha

Facebook X Share

บีโอไอ ระดมออกแพ็กเกจส่งเสริมลงทุน หนุนผู้ประกอบการไทยปรับตัว รับมือมาตรการภาษีของสหรัฐ และสงครามการค้าฝ่าสมรภูมิการแข่งขันสูง มุ่งเสริมศักยภาพผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนโลก พร้อมเร่งกิจกรรมจับคู่สร้างเครือข่ายธุรกิจ ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่ายอมรับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐเริ่มประกาศนโยบายเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ประกอบกับสถานการณ์การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ได้ออกมาตรการชุดใหญ่ ภายใต้ชื่อว่า “มาตรการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทย เพื่อรองรับโลกยุคใหม่” แบ่งเป็น 5 มาตรการย่อย ดังนี้

มาตรการที่ 1 มาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยกำหนดสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับเอสเอ็มอีไทย ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้สามารถลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น การปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย การใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยยกระดับกิจการ การประหยัดพลังงาน การยกระดับสู่มาตรฐานสากล รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่เอสเอ็มอีไทยเป็นพิเศษ จากเดิมยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในวงเงิน 50% ของเงินลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี ในวงเงิน 100% ของเงินลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ

มาตรการที่ 2 มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทย (Local Content) สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยมีช่องทางการขายที่กว้างขวางขึ้น และสามารถเชื่อมต่อกับบริษัทต่างชาติเพื่อเข้าสู่ซัพพลายเชนระดับโลก ผ่านการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อจูงใจให้บริษัทต่างๆ ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ โดยกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทจะต้องได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนในประเทศตามสัดส่วนที่กำหนด คือ

การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ไม่น้อยกว่า 40% ของมูลค่าวัตถุดิบทั้งหมด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 45% ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า 15% และเครื่องใช้ไฟฟ้า 40% จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมอีก 2 ปีจากเกณฑ์ปกติ มาตรการนี้จะทำควบคู่กับกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย เช่น งาน SUBCON Thailand และ Business Matching ที่มียอดจับคู่ธุรกิจกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี และกิจกรรม Sourcing Day ที่บีโอไอจัดร่วมกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

มาตรการที่ 3 การเพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณากระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญ สำหรับบางกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการสวมสิทธิ และอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการการค้าของสหรัฐ เช่น กิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์โลหะ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋า เป็นต้น โดยกำหนดเป็นเงื่อนไขชัดเจนว่า ต้องมีกระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญ โดยมีการแปรสภาพวัตถุดิบหลักเป็นผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอ เช่น มีการเปลี่ยนพิกัดศุลกากรอย่างน้อยในระดับ 4 หลัก เพื่อให้การผลิตเพื่อส่งออกของไทยเป็นที่ยอมรับและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชัดเจนมากยิ่งขึ้น

มาตรการที่ 4 การจัดระเบียบการลงทุนในบางสาขา เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ และรักษาสมดุลในการแข่งขันทางธุรกิจให้เหมาะสม ดังนี้ (1) กิจการที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูง และมีความเสี่ยงต่อมาตรการการค้าของสหรัฐ โดยยกเลิกการส่งเสริมผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ อุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ รวมทั้งกำหนดหุ้นไทยข้างมากในกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ กระเป๋า และสิ่งพิมพ์ (2) กิจการที่มีปริมาณผลิตเกินความต้องการ (Oversupply) และกระทบกับผู้ผลิตในประเทศ โดยยกเลิกการส่งเสริมผลิตเหล็กขั้นปลาย เช่น เหล็กทรงยาวทุกชนิด เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นหนา ท่อเหล็ก และกิจการตัดโลหะ (3) กิจการที่มีความเสี่ยงด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือชุมชน เช่น การผลิตผลิตภัณฑ์โลหะ เคมีภัณฑ์ พลาสติก การรีด ดึง หล่อหรือทุบโลหะ โดยงดให้สิทธิถือครองที่ดินเพื่อประกอบกิจการ เพื่อให้กิจการเหล่านี้ต้องไปตั้งในนิคมอุตสาหกรรมและได้รับการกำกับดูแลที่รัดกุมมากขึ้น

มาตรการที่ 5 การปรับปรุงเงื่อนไขการจ้างงานบุคลากรต่างชาติ เพื่อสร้างโอกาสการจ้างงานในประเทศ และกระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรไทยมากขึ้น โดยกำหนดว่าหากเป็นกิจการผลิตที่มีการจ้างงานทั้งบริษัทตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป จะต้องมีการจ้างบุคลากรไทยไม่น้อยกว่า 70% นอกจากนี้ ยังได้กำหนดรายได้ขั้นต่ำของบุคลากรต่างชาติที่จะขอใช้สิทธิด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานกับบีโอไอ เช่น ถ้าเป็นระดับผู้บริหาร ต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 150,000 บาทต่อเดือน และระดับผู้เชี่ยวชาญ ไม่น้อยกว่า 50,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้สามารถคัดกรองบุคลากรต่างชาติที่มีทักษะสูงให้เข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่เศรษฐกิจไทยได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บีโอไอ กำลังเตรียมเสนอมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีของสหรัฐ อีกทั้งทำให้ประเทศไทยยังคงสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในการดึงดูดการลงทุน โดยจะเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น กลุ่มอาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

“สงครามการค้าโลกที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งจากภาษีที่สูงขึ้น กฎกติกาการค้าใหม่ๆ การแข่งขันกับสินค้านำเข้า การเข้ามาของการลงทุนต่างชาติและและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อาจส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมดั้งเดิม ประเทศไทยจำเป็นต้องวางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเดิม ควบคู่กับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว บีโอไอจึงได้ออกมาตรการใหม่หลายด้าน เพื่อมุ่งจัดระเบียบการลงทุน พร้อมกับหนุนให้ผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัว เพื่อคว้าโอกาสการเติบโตในโลกการค้ายุคใหม่”

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

พรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมทําหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา

5 ก.ย. 2568 16:48 148 views

ข่าว

มติสภาฯ ท่วมท้น! โหวต ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ชนะขาดลอย

5 ก.ย. 2568 16:44 228 views

ข่าว

สื่อต่างประเทศ เผย “อนุทิน ชาญวีรกูล” คว้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไทย

5 ก.ย. 2568 16:26 233 views

ข่าว

สะพัด ‘นริศ ขํานุรักษ์’ ทิ้ง ‘ประชาธิปัตย์’ ลือหึ่งจ่อนั่งเก้าอี้ รมต.โควต้ากลุ่ม ‘ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์’

5 ก.ย. 2568 15:44 188 views

ข่าว

‘พิชัย’ ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่เคาะภาษี VAT เชื่อรู้ข้อดี-ข้อเสียกับประเทศอยู่แล้ว

5 ก.ย. 2568 15:39 145 views

ข่าว

ด่วน!ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ สั่งจําคุกอ่วม"เอกชัย หงส์กังวาน" 21 ปี ขวางขบวนเสด็จ

5 ก.ย. 2568 15:36 208 views

ข่าว

 เท้ง แจงยิบ! ย้ําจุดยืน เลือกเพื่อทางออกประเทศ ปูทางเลือกตั้ง-แก้รัฐธรรมนูญ

5 ก.ย. 2568 15:33 182 views

ข่าว

คิม จอง อุน เยือนจีนครั้งแรกในรอบ 6 ปี ร่วมหารือสี จิ้นผิง

5 ก.ย. 2568 15:05 154 views

ข่าว

aespa ยืนหนึ่ง! ‘Rich Man’ ยอดพรีแรงเวอร์ ทะลุ 1.11 ล้าน ปังไม่หยุด

5 ก.ย. 2568 14:43 229 views

ข่าว

ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา 18 นาย กองทัพบกย้ําดูแลตามหลักมนุษยธรรม

5 ก.ย. 2568 14:28 125 views

ข่าว

PERSES บุกฮ่องกง!  สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการ T-Pop โกอินเตอร์

5 ก.ย. 2568 14:22 897 views

ข่าว

พิธีสดุดีวีรชนทหารกล้า–อาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์ จากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา

5 ก.ย. 2568 13:43 140 views

ข่าว

สภาฯ มีมติเลื่อนวาระเลือกนายกฯ คนที่ 32 เสนอชื่อ 2 แคนดิเดต

5 ก.ย. 2568 13:39 173 views

ข่าว

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง‘249 นายพลสีกากี’ มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.68

5 ก.ย. 2568 13:11 245 views

ข่าว

โปรดเกล้าฯ‘โผทหาร’ 862 นาย เปิดชื่อ‘ผบ.เหล่าทัพ’ชุดใหม่ ‘ตท.26’เพื่อน ผบ.ทบ. เข้า 5 เสือทบ.-แม่ทัพภาคพรึ่บ

5 ก.ย. 2568 12:27 230 views

ข่าว

อัฟกานิสถานเจอแผ่นดินไหว 6.2 อีกครั้ง ดับพุ่งกว่า 2,200 ศพ

5 ก.ย. 2568 11:31 204 views