×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568

?>

‘เพื่อไทย’โร่เคลียร์ 4 ข้อกังขา‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ รับเป็นนโยบาย‘ประชานิยม’

 16 ก.ค. 2568 09:30 | 851 view

 @pracha

Facebook X Share

‘เพื่อไทย’โร่เคลียร์ 4 ข้อกังขา‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ รับเป็นนโยบาย‘ประชานิยม’

16 กรกฎาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก “พรรคเพื่อไทย” โพสต์ข้อความชี้แจงกรณี “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ระบุว่า... ใจร่มๆ เคลียร์ 4 ข้อสงสัย 20 บาทตลอดสาย ไม่ใช่ "ผู้ร้าย" แต่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตคนเมือง #ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ฐานคิด

#20 บาทมีที่มา และเรามองเห็นสิ่งที่มากไปกว่าราคาที่ลดลง

นี่คือนโยบายที่พยายามออกแบบระบบเศรษฐกิจของเมือง บนฐานคิดว่า ระบบขนส่งสาธารณะต้องเป็นระบบที่เอื้อให้คนทุกคนเข้าถึงได้โดยง่าย และต้องไม่มีอุปสรรคด้านราคาเป็นกำแพงกั้น การดำเนินนโยบายนี้เป็นไปเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ หรือเข้ามาอาศัยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ให้โอกาสเลือกได้ว่า เมื่อเขามีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้น เขาจะใช้มันไปกับอะไร

ตัวเลข 20 บาท ไม่ได้เป็นตัวเลขที่คิดขึ้นมาลอยๆ แต่มาจากการคำนวณค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการโดยสารรถไฟฟ้าต่อเที่ยวต่อคน พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 35 บาท การปรับลดราคาให้เหลือ 20 บาท มาจากความต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลง 40%

สมมุติว่าเราต้องเดินทางออกไปทำงาน หรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ เราจะใช้รถไฟฟ้าอย่างน้อย 2 รอบ (ไป–กลับ) เท่ากับว่าในหนึ่งวันเราจะมีเงินเหลืออย่างน้อย 30 บาท (ซึ่งจริงๆ หลายคนอาจจะจ่ายค่ารถไฟฟ้ามากกว่า 35 บาทอยู่แล้ว และเขาจะมีเงินเหลือมากกว่านั้น) เท่ากับว่าเดือนหนึ่งเราจะมีเงินเหลือขั้นต่ำ 900 บาท คิดเป็นเวลาทั้งปีเราจะมีเงินเหลือไปใช้จ่ายเรื่องอื่นๆ อย่างน้อย 10,800 บาท

ข้อมูลโดยภาพรวมภายในหนึ่งวัน พบว่ามีผู้โดยสารรถไฟฟ้ารวมทุกสายอยู่ที่วันละประมาณ 1.4 ล้านคน นั่นเท่ากับว่าในวันหนึ่ง คนที่ใช้รถไฟฟ้าจะมีเงินเหลือรวมกันวันละ 42 ล้านบาท แล้วถ้าคิดเป็นปี เท่ากับว่าเรามีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15,330 ล้านบาท แทนที่เงินจำนวนนี้จะถูกจ่ายเป็นค่าโดยสาร โดยที่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย

และที่สำคัญ สิ่งที่นโยบายนี้คืนให้กับประชาชนในเมืองหลวงและปริมณฑล ไม่ได้มีแค่เงิน และโอกาสในการเลือกใช้เงินที่เหลือในแต่ละเดือน แต่มันเป็นสิ่งไม่อาจประเมินค่าได้ คือ ‘เวลา’

ย้ำชัดๆ อีกครั้ง นี่คือการฝังหมุดลงไปในระบบขนส่งสาธารณะว่า ความเร็วต้องไม่ใช่เรื่องเฉพาะของคนมีอันจะกินเท่านั้น มันคือการกระจายโอกาส และคืนความเท่าเทียมให้กับผู้คน

#ใช้ภาษีประชาชนทั้งประเทศ แต่มีแค่คนกรุงฯ ได้ประโยชน์

#ใช้ภาษีประชาชน คนเมืองได้ใช้ คนอยู่ไกลได้ประโยชน์ทางอ้อม

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับมาทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ใครคือคนกรุงเทพฯ หากเรากำลังคุยกันเรื่องจำนวนประชากรในกรุงเทพฯ เราสามารถแบ่งประเภทได้ 2 อย่าง หนึ่งคือกลุ่มที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ คนกลุ่มนี้มีจำนวนอยู่ที่ 5.7 ล้านคน ส่วนอีกกลุ่มคือประชากรแฝง ซึ่งก็คือคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ คนเหล่านี้มีจำนวนมากถึง 10 ล้านคน ช่วงหยุดยาวที่รถไม่ติด ไปห้างดูคนบางตาไปมาก นั่นก็เพราะประชากรแฝงที่ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดเขาเดินทางกลับบ้านเกิด

ฉะนั้นไม่ใช่แค่คนกรุงเทพฯ แท้ๆ เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ เด็กมหาวิทยาลัย เด็กช่างจบใหม่ เดินทางมาทำงานใน กทม. ไม่จำเป็นต้องหาที่พักที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ซึ่งอาจจะมีราคาสูง เขาสามารถเลือกที่พักที่ไกลออกไป แต่สามารถเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างที่พักกับที่ทำงานผ่านรถไฟฟ้าได้ เดินทางราคาถูก ใช้เวลาไม่มาก มีเงินเหลือเก็บ ไม่ต้องอยู่ในสภาวะ ‘เดือนชนเดือน’ อาหารเย็นในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนจะไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่อาจจะเป็นเกาเหลาเนื้อแน่นๆ ชามสักชาม และอาจจะมีของหวานตบท้าย

ส่วนเรื่องการใช้เงินภาษีมาลงกับกรุงเทพฯ เป็นการเฉพาะ เอาจริงเรื่องนี้คุณสรยุทธ พิธีกรรายการกรรมกรข่าวเพิ่งพูดชัดว่า เราจะไปคิดแบบนั้นไม่ได้ ถ้าจะคิดแบ่งแยกกันแบบนี้แย่แน่ๆ ขยายความเพิ่มอีกนิดคือ ในบรรดาการทำนโยบาย หรือการทำโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลแทบจะทุกที่ ทุกรัฐบาล มันจำเป็นต้องเลือกและจัดสรรงบประมาณที่มาจากคนทั้งประเทศเข้าไปกับคนเฉพาะกลุ่ม และรอให้กลไกนโยบายมันทำงาน

ขอยกตัวอย่างแบบไม่เฉพาะเจาะจง สมมุติว่าในประเทศเรามีพื้นที่แห่งหนึ่งที่ดิน น้ำ อากาศ เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกพืชบางชนิด และเจ้าพืชชนิดนี้ก็มีราคาที่สูงกว่าสินค้าทางการเกษตรที่คนในพื้นที่ปลูก เราต้องการให้เขาปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงกว่า แต่ปัญหาคือ เมื่อเขาปลูกได้ เขาไม่รู้จะเอาไปขายที่ไหน เส้นทางการขนส่งสินค้าเหล่านี้ต้องดีพอที่จะทำให้เจ้าพืชชนิดนี้ถูกส่งถึงมือผู้บริโภคภายในช่วงเวลาที่ยังมีคุณภาพดีที่สุดอยู่ การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ ที่จะเชื่อมต่อพื้นที่นั้นเข้ากับศูนย์กลางการกระจายสินค้าจึงเป็นเรื่องจำเป็น

แล้วถามว่า คนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่ได้ปลูกพืชชนิดนั้นจะได้ประโยชน์อะไร? ในทางตรงคือไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่ในทางอ้อมคือ ประเทศจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่ๆ และรายได้ที่มันเพิ่มนั้นจะถูกนำไปใช้กับนโยบาย หรือโครงการต่อยอดเรื่องอื่นๆ ได้อีกมหาศาล

# เอื้อนายทุน

#ไม่ได้เอื้อทุน แต่ต้องอุดหนุนส่วนต่างสร้างความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เอื้อนายทุนไหม? หากย้อนกลับไปอ่านที่การเคลียร์ข้อสงสัยแรก จะพบว่าในวิสัยทัศน์ของการดำเนินนโยบายนี้ คือการมองเห็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราทำนโยบายนี้เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสให้ประชาชน การที่รัฐจ่ายเงินอุดหนุนส่วนต่างให้เอกชนนั้นก็เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย

ผู้ประกอบการเอกชนทำหน้าที่ให้บริการในระบบสัมปทานอย่างถูกต้องตามสัญญา ถ้ารัฐต้องการกำหนดราคาค่าโดยสารให้ต่ำกว่าต้นทุนและราคาตลาด เพื่อประโยชน์ของประชาชน รัฐก็จำเป็นต้องรับผิดชอบส่วนต่างนี้ในฐานะเจ้าของนโยบาย ซึ่งนี่คล้ายกันกับแนวนโยบายของพรรคก้าวไกลที่เคยหาเสียงไว้เช่นกัน แน่นอน นี่มันคือเรื่องปกติ

แม้จะมีความคล้ายกันในด้านการจ่ายเงินอุดหนุนเอกชน แต่แนวทางของพรรคเพื่อไทย แตกต่างจากแนวทางของพรรคประชาชน หรือพรรคก้าวไกลในรายละเอียด และในความต่างนั้นไม่ใช่ต่างเพราะใช้เงินมากกว่า แล้วจะเป็นการอัดฉีดเงินเข้ากระเป๋านายทุนเต็มๆ เพราะการใช้เงินน้อยกว่าก็ถือเป็นการอัดฉีดเงินเข้ากระเป๋านายทุนเต็มๆ ไม่ได้ต่างกัน เพราะมันคือการอุดหนุนส่วนต่าง

สิ่งที่ต่างกันระหว่างเราคือ เราเลือกที่จะอุดหนุนประชาชนทุกคนที่ต้องการจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ไม่ได้ต้องการอุดหนุนเพียงเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไกลข้ามเส้นเท่านั้น

#สุดท้ายก็แค่นโยบายประชานิยม ไม่แตะโครงสร้าง

#ประชานิยมจริง แต่มองจากดาวอังคารยังรู้ว่า แตะโครงสร้างแน่นอน

หากมองในกรอบนโยบายประชานิยม คือ เป็นนโยบายที่ออกมาเพื่อคนส่วนใหญ่ และฟังก์ชันกับคนชนชั้นล่าง-ชนชั้นกลางค่อนล่าง มีการใช้งบประมาณรัฐแทรกแซงกลไกราคา อุดหนุนส่วนต่างให้เอกชน และเป็นนโยบายที่หวังผลในทางการเมือง

ใช่ นี่คือ ‘นโยบายประชานิยม’ ไม่ปฏิเสธว่าการทำงานเป็นพรรคการเมือง ต่างมุ่งหวังที่จะสร้างผลงาน ตอบสนองประชาชน โดยมุ่งหวังความนิยมจากประชาชน แทบจะไม่มีพรรคการเมืองไหนในโลกที่พยายามขับเคลื่อนนโยบายโดยมุ่งหวังว่าจะเห็นสังคมพระศรีอารย์ หากมีก็คงเป็นการหลอกตัวเอง เพราะทุกพรรคการเมืองเข้ามาในสนามเลือกตั้ง ต่อสู้กันด้วยนโยบายก็เพราะหวังว่าจะได้รับการเลือกตั้ง และต่างก็ต้องตั้งใจขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และตอบโจทย์กับประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ยากที่โปรเจกต์ทางการเมือง หรือภาพฝันขนาดใหญ่จะสำเร็จลุล่วงภายในเวลา 4 ปี ทุกพรรคทุกคนที่ทำงานการเมืองต่างต้องการที่จะทำงานต่อเป็นเรื่องปกติ

ส่วนข้อปรามาสที่ว่า นโยบายลักษณะนี้ของเพื่อไทยไม่แตะโครงสร้าง ลองคิดถึง 30 บาทรักษาทุกโรค (ปัจจุบันรักษาได้ทุกที่) เป็นประชานิยมไหม? เป็น แต่ถามว่าโครงสร้างเปลี่ยนไหม? เปลี่ยนมหาศาล กองทุนหมู่บ้านเป็นประชานิยมไหม? เป็น โครงสร้างเปลี่ยนไหม? ลองคิดถึงคนจนที่ลืมตาอ้าปากได้ เพราะมีเงินทุนเข้าถึงง่าย ต่อยอดอาชีพได้ แบบนี้เรียกว่าแตะโครงสร้างไหม? ก็แตะ

แล้ว 20 บาทตลอดสาย จะเปลี่ยนโครงสร้างอะไรบ้าง? มองอย่างไวที่สุด ปัญหารถติดเรื้อรังมีโอกาสน้อยลงไหมเมื่อคนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น? คำตอบคือมีโอกาสลดลงแน่นอน เมื่อรถบนท้องถนนน้อยลง การก่อมลพิษทางอากาศก็จะเบาบางลง การที่อยู่ๆ มีเงินจำนวนอย่างน้อย 15,000 ล้านบาท แทนที่จะไปกองอยู่ที่ค่าโดยสาร แต่ได้ถูกเอาไปกระจายในเรื่องอื่นๆ ถามว่า นี่มันใช่การแตะโครงสร้างเศรษฐกิจอยู่บ้างไหม? ก็ใช่อีก

เอาจริงนะ ทั้งหมดมันอาจจะไม่ใช่การเริ่มต้นตั้งคำถามว่า ‘ทำเพื่อใคร’ แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดของทั้งหมดอาจจะเพียงเพราะ ‘เพื่อไทยเป็นคนทำ’

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

กทม.เร่งพร่องน้ํา! ฝนตกหนักเกิน 100 มม. หลายพื้นที่

4 พ.ย. 2568 15:23 34 views

ข่าว

ซูเปอร์ฟูลมูนคืนลอยกระทง! ชวนชมดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี

4 พ.ย. 2568 14:40 30 views

ข่าว

คุณภาพน้ําดีขึ้น เชียงใหม่ผันน้ําปิงเติมคลองแม่ข่า รับเทศกาลยี่เป็ง

4 พ.ย. 2568 14:35 38 views

ข่าว

พล.อ.ณัฐพล ยัน เอา ปราสาทตาควาย คืนแน่ แต่ขอเก็บกู้ทุ่นระเบิดให่เสร็จก่อน

4 พ.ย. 2568 13:53 95 views

ข่าว

'ศุภจี' ชี้ ต้องทําความเข้าใจร้านค้า หลังคิด Vat เพิ่ม 7 %

4 พ.ย. 2568 13:45 57 views

ข่าว

ศาลฎีกายกคําร้อง สว.สํารอง ไม่มีอํานาจยื่นให้สว.ในสภาทั้ง 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่

4 พ.ย. 2568 13:37 95 views

ข่าว

“โสภณ” ชี้ น้ํารอระบาย กรุงเทพ เหตุฝนตกเกินปริมาณที่รับได้

4 พ.ย. 2568 13:29 45 views

ข่าว

ครม.โยก “ดนุชา” กลับเลขาสภาพัฒน์ “อ้อนฟ้า” หวนคืนเลขาฯก.พ.ร.

4 พ.ย. 2568 13:25 50 views

ข่าว

จุฬาฯ-กลาโหมลงนาม! ยกระดับการศึกษา-นวัตกรรมด้านความมั่นคง

4 พ.ย. 2568 12:44 46 views

ข่าว

แม่ทัพใจบุญ! พล.ท.บุญสิน ตั้งมูลนิธิช่วยสังคม  พร้อมปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้เติบโตบนเส้นทางแห่งความดี 

4 พ.ย. 2568 12:34 112 views

ข่าว

นายกฯ จับตาคนดัง-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร ไม่มีละเว้น-ฟันไม่เลี้ยง

4 พ.ย. 2568 12:13 125 views

ข่าว

“ธรรมนัส” ชี้สมาชิกพรรคกล้าธรรมเป็นของจริง ตรวจสอบได้ ไม่เหมือนบางพรรคเป็นของปลอม

4 พ.ย. 2568 12:06 110 views

ข่าว

“รมว.ยุติธรรม” เผยข้อมูลยังไม่ชัด 7 รายชื่อนักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์

4 พ.ย. 2568 11:57 155 views

ข่าว

นายกฯนําคณะ ครม. ร่วมสืบสานประเพณี “ลอยกระทง”

4 พ.ย. 2568 11:40 107 views

ข่าว

นายกฯเปิดประชุมหัวหน้าตร.อาเซียน ตอกย้ําความเป็นผู้นําในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค

4 พ.ย. 2568 11:33 115 views

ข่าว

“ลี เซียนลุง” โพสต์ภาพคู่ “อนุทิน” ชื่นชมสัมพันธ์แน่นแฟ้น ไทย–สิงคโปร์ มั่นใจเดินหน้าร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล–สีเขียว

4 พ.ย. 2568 10:51 75 views