วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568
14 ก.ค. 2568 11:06 | 88 view
@nipon supapoom
กระทรวงพาณิชย์กำหนดแนวทางเร่งด่วน ผนึกกำลังสหกรณ์-สภาเกษตรกร รับมือปัญหาขาดแรงงาน-ดันส่งออกอินโดนีเซีย-ขยายตลาดใหม่ อินเดีย-ยูเออี พร้อมให้กรมการค้าภายในลดราคาปุ๋ยเป็นสินค้าธงเขียว หวังลดต้นทุนให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยโดยตรง
วันที่ 14 ก.ค.68 - นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในตลาดสำคัญอย่างตลาดต้นพยอมและตลาดวโรรส พร้อมใช้โอกาสนี้หารือสถานการณ์ผลผลิตลำไยในช่วงต้นฤดู และรับฟังปัญหาจากชาวสวน เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
รมว.พาณิชย์ ได้พบปะหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ สหกรณ์การเกษตรจอมทอง สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ และสหกรณ์พืชผักผลไม้เพื่อการตลาดจังหวัดเชียงใหม่ จำกัด เพื่อหารือแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดยเกษตรกรได้สะท้อนปัญหาสำคัญ อาทิ การขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยวลำไย และความต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนงบประมาณพัฒนามาตรฐานโรงคัดบรรจุและโกดัง (GMP, HACCP) เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐสนับสนุนผู้ประกอบการโรงอบและผู้ส่งออกลำไยสดรายใหม่ๆ รวมถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก ธ.ก.ส. ตลอดจนขอให้เร่งผลักดันโควตาส่งออกไปอินโดนีเซีย และสนับสนุนบรรจุภัณฑ์สำหรับการขายตรงออนไลน์
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดแนวทางเร่งด่วนหลายมาตรการสำหรับสินค้าลำไย เพื่อรับมือกับปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เปิดจุดจำหน่ายลำไยที่ ปตท. สำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และหน่วยงานอื่น ๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 , กระจายผลผลิตผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ , จัดกิจกรรม Thai Fruits Festival เชื่อมโยงกับห้างค้าส่งค้าปลีก โมเดิร์นเทรด ตลาดกลาง ตลาดสด , จัดกิจกรรม Pre-Order และ CSR จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ , สนับสนุนกล่องไปรษณีย์และตะกร้าให้สถาบันเกษตรกร เพื่อการขายตรงออนไลน์
ส่วนการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายส่งออกลำไยทั้งสดและแปรรูป รวม 65,000 ตัน เชื่อมโยงตลาดต่างประเทศผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) โดยมีการจัดกิจกรรม Business Matching สินค้าลำไยแล้วมูลค่า 200 ล้านบาท ,การติดตามโควตาการส่งออกไปอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด ซึ่งการเจรจาระหว่างทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และ 8-9 กรกฎาคม 2568 ทำให้ผู้ส่งออกในจังหวัดลำพูน ได้โควตาไม่อั้นจากอินโดนีเซีย รวมไปถึงการขยายตลาดใหม่ไปยัง อินเดีย และประเทศในตะวันออกกลาง อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับปี 2568 จังหวัดเชียงใหม่มีปริมาณผลผลิตลำไยอยู่ที่ 443,622 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.32 จากปี 2567 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดในเดือนสิงหาคม (164,577 ตัน) ขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณร้อยละ 8 (22,409 ตัน) กระจายในอำเภอจอมทอง ดอยหล่อ แม่วาง สันป่าตอง ฮอด และดอยเต่า ส่วนราคาลำไยล่าสุด (12 กรกฎาคม 2568) แตกต่างกันไปตามเกรดและรูปแบบการจำหน่าย ตั้งแต่ 1 บาทต่อกิโลกรัมสำหรับเกรด C ถึง 25 บาทต่อกิโลกรัมสำหรับลำไยสดช่อเกรดทอง
ข่าว
14 ก.ค. 2568 14:58 55 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 14:51 63 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 14:46 56 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 14:44 47 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 14:35 62 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:53 47 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:48 65 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:35 51 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:16 86 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:10 110 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 13:06 116 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 12:55 51 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 12:52 74 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 12:47 78 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 12:29 63 views
ข่าว
14 ก.ค. 2568 11:49 105 views