วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568
4 ก.ค. 2568 13:53 | 110 view
@pracha
ฉันทวิชญ์เชื่อทีมไทยแลนด์มีข่าวดีเจรจาภาษีทรัมป์
วันนี้ (4 ก.ค. 68) นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าของการเจรจาการค้ากับสหรัฐของไทย ว่า หลังจากที่ทีมเจรจาโดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานทีมเจรจาเดินทางไปเจรจากับสหรัฐตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 และได้คิวเข้าเจรจาในวันที่ 3 ก.ค. 68 นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผลการเจรจากลับมา ซึ่งต้องรอผลจากนายพิชัย รายงานกลับมาในฐานะประธานทีมเจรจา แต่ก็คาดว่าทางทีมคงจะเปิดเผยผลเจรจาเร็วๆนี้
ส่วนกรอบกำแพงภาษีว่าไทยจะถูกสหรัฐเรียกเก็บเท่าไหร่นั้น นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดา ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐได้เลยว่าคิดอะไรอยู่ แต่จุดมุ่งหมายของไทยที่รัฐบาลเคยพูดไปว่าจะพยายามทำให้อัตราภาษีไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้านคู่แข่ง อย่างไรก็ตามก็เชื่อว่าทีมเจรจาจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่หากว่าได้โดนเก็บอัตราภาษีที่สูงกว่าเวียดนาม ซึ่งโดนเก็บอยู่ที่ 20% จริง ก็คงจะเป็นเรื่องท้าทายของไทยอยางมาก ที่จะต้องหามาตรการมารองรับต่อไป
ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปี นายฉันทวิชญ์ มองว่า ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก และต้องยอมรับว่ามีปัจจัยรุมเร้าค่อนข้างเยอะ เช่น ผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ เป็นตัวกำหนดที่สำคัญว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้แค่ไหน แต่จากที่ดูการประเมินจากหน่วยงานต่างๆ คิดว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ติดลบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ตนเองไม่อยากให้กังวลมากเกินไป ถึงแม้เศรษฐกิจไทยจะมีความไม่แน่นอนที่สูงแต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าภาครัฐเข้ามามีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐ เร่งเจรจาการค้าเสรีได้ รวมถึงเร่งเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง และระยะต่อไปก็จะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ แน่นอน แต่จะดีแค่ไหนต้องรอดูตัวเลขอีกครั้ง
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกในครึ่งปีหลังไปยังตลาดสหรัฐมีทีท่าว่าจะลดการส่งอออกลง นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า ปัจจัยที่จะมาเร่งการส่งอแกของไทยได้นั้น คือ การเจรจาการค้าเสรี เช่น กับ EU และ เกาหลีใต้ ที่เป็นตลาดศักยภาพแทน นอกจากนี้จากการที่ได้คุยกับภาคเอกชน ก็พบว่าภาคเอกชนไม่ได้นิ่งเฉย และพยายามหาวิธีปรับตัวไปตามสถานการณ์การค้าโลก พยายามหาตลาดใหม่ พยายามหาทางที่จะลดต้นทุน เพราะฉะนั้นเราต้องอย่าลืมว่าไม่ว่าอเมริกาจะทำอย่างไร ภาคเอกชนใครเก่งและจะสามารถปรับตัวได้ ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยไปต่อได้
สำหรับมุมมองต่อค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแข็งค่าอยู่ในขณะนี้ นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า มุมมองของตนเองในฐานะของคนที่เคยทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มองว่า ธปท. ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งผลต่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงของเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย เพราะฉะนั้นเรามีความเชื่อมั่นว่านโยบาย ธปท. จะทำให้ค่าเงินบาทดีที่สุดกับเศรษฐกิจในระยะยาวอยู่แล้ว
ในส่วน กระทรวงพาณิชย์ ไม่ว่าค่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการ ให้ภาคเอกชนและคนทำงาน สามารถได้ประโยชน์จากสิ่งนั้น แต่จะให้ไปกำหนดธนาคารในประเทศไทยว่าค่าเงินบาทควรจะอยู่เท่าไหร่ ผมคิดว่าเราต้องเคารพถึงความเป็นอิสระในการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย และมั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้พิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว อย่างรอบครอบ
ข่าว
4 ก.ค. 2568 17:04 58 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 16:02 64 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 15:32 63 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 14:34 128 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 14:21 75 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 13:53 111 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 13:31 91 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 13:25 103 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 12:49 68 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 12:28 145 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 12:01 90 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 11:39 138 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 11:29 124 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 11:08 103 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 10:40 147 views
ข่าว
4 ก.ค. 2568 10:26 160 views