ไทยเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ประกาศยืนหนึ่งจัดแข่งขันตามกติกาสากล ดัน ‘มวยไทย’ คืนสังเวียน หลังเคยถอนตัวจากกรณีกัมพูชาใช้ชื่อ ‘กุน ขแมร์’ พร้อมลดกีฬาพื้นบ้านเหลือไม่เกิน 4 ชนิด"

กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงกีฬาอาเซียน หลังจากประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 โดยใช้ 3 จังหวัดหลักคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา เป็นสนามการแข่งขัน

ล่าสุด "สหพันธ์กีฬาซีเกมส์" หรือ "มนตรีซีเกมส์" ได้มีมติครั้งประวัติศาสตร์ แก้ไขธรรมนูญข้อบังคับที่ใช้มายาวนานถึง 62 ปี โดยมีสาระสำคัญคือ การบรรจุชนิดกีฬาที่จะใช้แข่งขันในซีเกมส์จะต้องเน้นเฉพาะกีฬาสากล หรือกีฬาในโอลิมปิกเกมส์และเอเชียนเกมส์เป็นหลัก พร้อมทั้งกำหนดให้กีฬาพื้นบ้านสามารถบรรจุได้ไม่เกิน 4 ชนิดเท่านั้น และแต่ละชนิดจะชิงเหรียญทองได้ไม่เกิน 8 เหรียญ

แต่สิ่งที่หลายฝ่ายจับตามอง คือประเด็นของ "มวยไทย" ซึ่งเคยเป็นชนวนความขัดแย้งเมื่อกัมพูชาใช้ชื่อ "กุน ขแมร์" แทนในการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ส่งผลให้ทีมไทยประกาศถอนตัวจากการแข่งขันกีฬาชนิดนี้

ล่าสุด “บิ๊กแนต” นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และ CEO ของสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ออกมายืนยันชัดว่า “ครั้งนี้จะไม่มีการใช้ชื่อ 'กุน ขแมร์' อย่างแน่นอน และประเทศไทยจะนำ ‘มวยไทย’ กลับมาบรรจุแข่งขันอีกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเบื้องต้นว่าอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อจาก “มวยไทย” เป็นเพียง “มวย” เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากหลายชาติในอาเซียนต่างก็มีศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น “กุน ขแมร์” ของกัมพูชา และ “มวยลาว” ของ สปป.ลาว ซึ่งหากใช้คำกลางอย่าง “มวย” จะทำให้ทุกชาติสามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันได้โดยไม่ติดข้อขัดแย้งด้านอัตลักษณ์

การแข่งขันครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซีเกมส์ที่มุ่งสู่มาตรฐานสากล พร้อมเปิดเวทีให้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้มีพื้นที่บนพื้นฐานของความเข้าใจและการเคารพซึ่งกันและกัน

#ซีเกมส์2025 #มวยไทย #กุนขแมร์ #กีฬาอาเซียน #ซีเกมส์ไทยเจ้าภาพ #บิ๊กแนต #กีฬาสากล #ซีเกมส์33 #ข่าวกีฬา #MuayThai #SEAAGames2025 #ไทยเจ้าภาพซีเกมส์