วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568
12 มิ.ย. 2568 16:16 | 292 view
@yaovarest
รมต.สธ. วอนแพทยสภา ทบทวนโทษแพทย์รักษาทักษิณ ชี้ "รุนแรงเกินไป" ขัดผลสอบสวน 5 เดือน มติลงโทษแพทย์พลิกจากผลสอบสวน ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใหม่ หวั่นแพทย์ไม่กล้ารักษาผู้ป่วย หากเกรงถูกเล่นงานภายหลัง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ยื่นเอกสารจำนวน 11 หน้า ถึง ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา และกรรมการแพทยสภาทุกคน โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าว ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อมติของแพทยสภาในการลงโทษแพทย์ ซึ่งมีความเห็นสวนทางกับผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการที่ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 5 เดือน
นายสมศักดิ์ ระบุว่า คณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ภายใต้การนำของ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ได้สอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีข้อสรุปเบื้องต้น ดังนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนเองให้ความสนใจเป็นพิเศษ และไม่อาจละเลยได้ก็คือ เหตุใดคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ จึงไม่เห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการสอบสวนดังกล่าว หากไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม หรือเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ การเปลี่ยนแปลงมติอย่างมีนัยสำคัญในชั้นสุดท้ายเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแรงจูงใจอื่นใดที่อยู่นอกเหนือจากข้อเท็จจริงและหลักวิชาชีพมาประกอบในการตัดสินใจหรือไม่
นายสมศักดิ์ยังระบุถึงกรรมการแพทยสภาทุกคนอีกว่า การตัดสินว่าการกระทำใดละเมิดจริยธรรมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริง เจตนา และบริบทโดยรอบ ไม่อาจใช้หลักเกณฑ์ตายตัว หากเราต้องการรักษาจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ให้มั่นคงและเป็นธรรม ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ ความเมตตา และความกล้าหาญที่จะตัดสินโดยปราศจากอคติ ท่านทั้งหลายรู้สึกไหมว่า ในเวลานี้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจะเชื่อว่าการลงโทษหมอ 3 คนนี้ เป็นการ “ตีวัวกระทบคราด”
ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี (ทักษิณ ชินวัตร) เดินทางกลับประเทศภายใต้กระบวนการยุติธรรมและเหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปี เมื่อเดินเข้าเรือนจำ ท่านก็ได้รับการตรวจร่างกายเบื้องต้นตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กับผู้ต้องขังแรกรับทุกคน โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินสุขภาพและความจำเป็นในการรักษา ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับผู้ต้องขังรายอื่น
เพียงแค่ผู้ป่วยอย่างอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพรองรับการรักษาเฉพาะทางตามความจำเป็น กลับกลายเป็นเหตุให้แพทย์ 4 คนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาในห้วงเวลาดังกล่าวต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรม ทั้งที่กระทำไปด้วยความรับผิดชอบในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยเท่านั้นหรือ ทุกอย่างเป็นไปตามความจำเป็นทางการแพทย์ ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้แพทย์ต้องถูกลงโทษ
รมต.สธ. ยังแสดงความกังวลว่า การลงโทษแพทย์ในลักษณะนี้ จะสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีให้กับวงการแพทย์ อาจทำให้แพทย์ไม่กล้าตัดสินใจรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต เพราะเกรงกลัวว่าจะถูกลงโทษในภายหลัง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบสาธารณสุขโดยรวม
นายสมศักดิ์ เรียกร้องให้กรรมการแพทยสภาทบทวนมติลงโทษดังกล่าว โดยยึดหลักความเป็นธรรม ความเมตตา และพิจารณาถึงเจตนาและบริบทของการรักษาพยาบาล พร้อมย้ำว่า ในการประชุมวันนี้ ขอให้พวกเราช่วยกันตัดสิน ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งไม่ใช่ในฐานะกรรมการเพียงอย่างเดียวตนเองเชื่อเสมอว่าความเมตตาไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความยุติธรรมในรูปแบบที่สูงที่สุด
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ได้แนบหลักฐานประกอบการชี้แจง ได้แก่ ผลการพิจารณาจริยธรรมของแพทยสภา ที่ผ่านคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด, ผลสำรวจนิด้าโพลที่ชี้ว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นการกำกับดูแลจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ของแพทยสภาถึง 54.35% และคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดต่อการชี้แจงในครั้งนี้ด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ถึงแม้ในการหารือของทีมนายสมศักดิ์ คาดการณ์แล้วว่ามติของแพทยสภาจะออกมาแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้คงต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 15:24 63 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 14:59 102 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 14:47 160 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 14:31 79 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 14:30 103 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 13:23 103 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 12:51 71 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 12:40 120 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 12:21 99 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:59 59 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:49 42 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:49 235 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:41 91 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:39 95 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:35 88 views
ข่าว
13 มิ.ย. 2568 10:05 92 views