รมว.ต่างประเทศ ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ-ด่านเปิดปกติ ชี้ทั้งสองฝ่ายใช้กลไก JBC-GBC-RBC หารือหาข้อยุติอย่างสันติ ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ที่ดี

2 มิ.ย. 2568 - นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เกี่ยวกับการพัฒนาสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้(1 มิ.ย.68) โดยยืนยันว่า ประเทศไทยและกัมพูชาเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกันอย่างมากทั้งระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายกระทบความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ

นายมาริษ กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 05.45 น. ที่บริเวณด่านช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่ากระทรวงต่างประเทศรู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายผ่านแดนอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำว่า ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนยังคงสงบและด่านชายแดนไทยและกัมพูชายังคงเปิดทำการตามปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือกันหลายระดับหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น รวมถึงการพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งเห็นพ้องที่จะยุติความตึงเครียดโดยเร็ว นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศก็ได้มีการพูดคุยกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของไทยก็ได้ใช้โอกาสเดินทางไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น พูดคุยโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันเพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่

ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงต้องใช้กลไกที่มีอยู่ ด้วยเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะทำให้เกิดความสงบสุข ซึ่งได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC), คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป (GBC) และ คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อหารือให้เกิดความสงบขึ้น

นายมาริษ ย้ำว่า ทั้งสองประเทศจะไม่ทำอะไรให้สถานการณ์บานปลาย และจะใช้ความอดกลั้นที่จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้าย รวมถึงใช้กลไกการเจรจาของกรอบ JBC ในการแก้ไขปัญหา และจะไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมควรเปิดเผย เพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้

สำหรับการจัดประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้น นายมาริษยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการเจรจาแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงเรื่องวันประชุมได้ โดยครั้งนี้ฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ยังย้ำว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเรียบร้อยและปกติดี และแนวทางการแก้ไขปัญหาของทั้งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ยังอยู่ในเงื่อนไขของการเจรจาทางลงที่ดี ซึ่งมีแนวทางเดียวกันมุ่งหาข้อยุติอย่างสันติ