กรมประมงยกระดับเฝ้าระวัง! ตั้งทีมเฉพาะกิจตรวจเข้มสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย-กก ข้ามพรมแดน ชี้ผลเบื้องต้นยังไม่เกินมาตรฐาน แต่แนะประชาชนเลี่ยงบริโภคชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

1 มิ.ย. 2568 - นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงมาตรการรับมือวิกฤตมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย โดยยืนยันว่ากรมประมงตระหนักถึงความปลอดภัยในการบริโภคสัตว์น้ำและความยั่งยืนของทรัพยากรอย่างสูงสุด จึงได้จัดตั้ง "แผนเฉพาะกิจตรวจติดตามและเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำ" ในแม่น้ำทั้งสองสายที่ไหลข้ามพรมแดนอย่างเข้มข้น

แผนดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงสำคัญ 4 จุด ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ได้แก่ บริเวณบ้านโป่งนาคำ, สะพานแม่ฟ้าหลวง, หลังวัดสันธาตุถึงสบกก ใน จ.เชียงราย และบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หย่อมบ้านแก่งตุ๋ม ใน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยจะดำเนินการเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำ เช่น ปลาสร้อย ปลาซ่า ปลาค้าว และปลากด ทุก 2 สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2568 เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์หาการปนเปื้อนสารพิษสำคัญ 4 ชนิด ได้แก่ สารหนู (As), ปรอท (Hg), ตะกั่ว (Pb) และแคดเมียม (Cd) รวมถึงตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิวิทยา

จากการเก็บตัวอย่างปลาแค้ที่มีตุ่มแดงมาตรวจวินิจฉัยโรค พบมีปรสิตและเชื้อแบคทีเรียที่ตุ่มเนื้องอก แต่ไม่พบในอวัยวะภายใน และยังไม่พบเชื้อไวรัส นอกจากนี้ การตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนในปลากินพืชและกินเนื้อที่เก็บมา 3 ครั้ง พบว่าโลหะหนักซึ่งเป็นสารปนเปื้อนยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมประมง ได้แนะนำให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์น้ำที่จับได้จากแม่น้ำสายและแม่น้ำกกในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แม้ผลการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นจะยังไม่เป็นอันตราย กรมประมงจะยังคงดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ พร้อมย้ำว่าสัตว์น้ำที่จำหน่ายเพื่อบริโภคส่วนใหญ่มาจากระบบการเพาะเลี้ยง ซึ่งไม่ได้ใช้น้ำจากแม่น้ำสายและแม่น้ำกก ประชาชนจึงสามารถมั่นใจในการบริโภคได้อย่างปลอดภัย