องค์การอนามัยโลกเห็นพ้องข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์! เตรียมรับมือโรคระบาดในอนาคต หลังโลกเผชิญโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ ณ การประชุมประจำปีที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยประเทศสมาชิกมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติข้อตกลงฉบับใหม่ ที่มุ่งเน้นการป้องกัน การเตรียมการ และการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ในอนาคต หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับความเสียหายและความวุ่นวายอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบโดยปราศจากการคัดค้านใดๆ ซึ่งสร้างความยินดีให้กับที่ประชุมเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการหารือและถกเถียงประเด็นนี้กันมาอย่างยาวนานกว่า 3 ปี อย่างไรก็ตาม การประชุมในขั้นตอนสุดท้ายครั้งนี้ไม่ปรากฏตัวแทนจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ให้กับ WHO เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากการเป็นสมาชิก WHO ไปก่อนหน้านี้

นายเท็ดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวย้ำอย่างชัดเจนว่า ข้อตกลงที่ผ่านความเห็นชอบในครั้งนี้จะ ไม่ละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศสมาชิก แต่อย่างใด และ WHO จะ ไม่มีอำนาจในการบังคับใช้มาตรการต่างๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การฉีดวัคซีน หรือแม้แต่การล็อกดาวน์ประเทศ

แม้ว่าผู้สนับสนุนจำนวนมากจะชื่นชมข้อตกลงครั้งนี้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตสาธารณสุขโลกในอนาคต แต่ก็ยังคงมีความเห็นต่างเกิดขึ้น โดยนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ WHO และระบุว่าสหรัฐฯ กำลังทำงานร่วมกับหลายประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อปรับปรุงระบบสาธารณสุขระดับโลกให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศอื่นๆ เข้าร่วมกับแนวทางของสหรัฐฯ ด้วย

การผ่านข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของประชาคมโลกในการถอดบทเรียนจากวิกฤตโควิด-19 เพื่อสร้างกลไกและกรอบความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในการรับมือกับภัยคุกคามทางสาธารณสุขในอนาคต โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันภายใต้หลักการที่ไม่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศ