สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว US-China talks to defuse trade row resume in Geneva อ้างรายงานจากแหล่งข่าว 2 ราย ที่ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกาและจีนได้พบกันอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค. 2568 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวแทนของทั้ง 2 ชาติ ได้นัดพูดคุยกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์สงครามการค้า ซึ่งผลส่งกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 10 พ.ค. 2568 เหอลี่เฟิง (He Lifeng) รองนายกรัฐมนตรีของจีน ได้พบกับ สก็อต เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ และ เจมิสัน กรีร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งมีการหารือกันโดยใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการพบกันแบบพบหน้ากันครั้งแรกนับตั้งแต่ 2 ชาติมหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเปิดศึกกำแพงภาษีตอบโต้กันไป – มา โดยต่างฝ่ายต่างขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของฝ่ายตรงข้ามในอัตราสูงกว่า 100%

ในเบื้องต้น การหารือเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2568 ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระสำคัญของการหารือ และไม่ได้ส่งสัญญาณถึงความคืบหน้าที่ชัดเจนในการลดอุปสรรคทางการค้าที่รุนแรง ขณะที่การประชุมที่บ้านพักของเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำสหประชาชาติสิ้นสุดลง แต่ในเวลาต่อมา มีความเคลื่อนไหวจาก โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจากันเพื่อเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดในลักษณะที่เป็นมิตรแต่สร้างสรรค์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

“วันนี้เป็นการประชุมที่ดีมากกับจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ มีการหารือกันหลายเรื่องและเห็นด้วยกันมาก เราต้องการเห็นการเปิดจีนให้ธุรกิจของสหรัฐฯ เข้ามาเพื่อประโยชน์ของทั้งจีนและสหรัฐฯ ความคืบหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้น” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ทีมเจรจาจะประชุมกันที่วิลลาของเอกอัครราชทูตสหประชาชาติ ซึ่งมีสวนส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทะเลสาบเจนีวาได้ในเขตชานเมืองโคโลญของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีต้นไม้เขียวขจี ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ได้รับเลือกเป็นสถานที่เจรจาของชาติมหาอำนาจทั้ง 2 หลังจากที่บรรดานักการเมืองชาวสวิสได้ประสานในระหว่างการเยือนจีนและสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้