นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระบุว่า รัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งทาง นายภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และทางกองทัพ เพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัย เตรียมสรรพกำลังเชิงรุก เพิ่มกำลังทหารตั้งด่านในพื้นที่ และมองว่า ไม่ควรแบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนา ซึ่งรัฐบาลได้วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดในการสื่อสาร

ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษา นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย และประธานอาเซียน ได้ติดหารือและยืนยันว่า พร้อมพูดคุยในเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้พยายามแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด ยืนยันว่า มุ่งดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาล ที่อยู่ในพื้นที่ ได้รายงานสถานการณ์ให้รัฐบาลทราบอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำชัดว่า ผู้กระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์

//// ต่อคลิป 2 /////

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มองว่า การก่อเหตุไม่สงบต่อทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา และเกิดจากความพยายามแบ่งแยกรัฐไทย ซึ่งเป็นรัฐเดี่ยว
ออกเป็นรัฐพิเศษหรือรัฐอิสระ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่ประสบเหตุ ทั้งนี้ ได้หารือกับแม่ทัพภาค 4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และตัวแทนคณะทำงาน ที่ตั้งโดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และได้ชี้แจงไปเรียบร้อยแล้วว่า ไทยไม่ยินยอม เรื่อง ความรุนแรง พร้อมระบุด้วยว่ามีคนตีความคำว่าการปฏิบัติการเชิงรุกผิดเพี้ยน ว่าเป็นการปราบปราม

///// ต่อคลิป 3 ///

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะชีวิต
ความปลอดภัย และทรัพย์สิน อยากสร้างสันติสุขให้ยั่งยืน ซึ่งการแก้ปัญหาภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และแก้ด้วยสันติวิธี เบื้องต้นต้องทำให้ประชาชนได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย อย่าให้พื้นที่เป็นของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เนื่องจากโครงสร้าง ในหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 37 คน และมีกองกำลังอาสา จ.นราธิวาส ที่มี 3,000 คน และมีทหารพราน 7,500 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3,800 คน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะป้องกันไม่ได้ แต่ว่าต้องได้รับความร่วมมือ จากผู้นำในท้องที่ ผู้นำศาสนา หรือผู้นำจิตวิญญาณ ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่ามนุษย์ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งได้หามาตรการไว้แล้ว


///// จบตัด /////