3 พฤษภาคม 2568 เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกส์ ให้สัมภาษณ์กับทาง บีบีซี ว่า พระองค์ต้องการกลับไปคืนดีกับพระบิดา 'กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3' และราชวงศ์อังกฤษอีกครั้ง  แต่ยังคงไร้การพูดคุยระหว่างกัน โดยตลอดการสัมภาษณ์พระองค์ทรงเสียใจมาก เนื่องจากประเด็นความขัดแย้งเรื่องมาตรการความปลอดภัย เกี่ยวกับระดับการอารักขาความปลอดภัยที่พระองค์และครอบครัวจะได้รับขณะพำนักอยู่ในประเทศอังกฤษ หลังจากเจ้าชายแฮร์รี่ตัดสินใจถอนตัวจากราชวงศ์เมื่อปี 2020 และย้ายไปพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐกับเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ พระชายา

เจ้าชายแฮร์รีทรงให้สัมภาษณ์ กับ บีบีซี จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ หลังแพ้การยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวว่า พระองค์ทรงปรารถนาที่จะคืนดีกับราชวงศ์อังกฤษ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้กับราชวงศ์อีกต่อไป เพราะชีวิตนั้นมีค่า พระองค์ตรัสอีกว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์ ทรงไม่ยอมตรัสกับพระองค์เพราะเรื่องระดับการรักษาความปลอดภัยนี้ แต่พระองค์ไม่ต้องการต่อสู้อีกต่อไป และไม่รู้ว่ากษัตริย์ชาร์ลส์จะมีพระชนมายุถึงเท่าใด

เจ้าชายแฮร์รียังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีความขัดแย้งกันหลายครั้งระหว่างพระองค์และสมาชิกราชวงศ์อังกฤษบางพระองค์ แต่พระองค์ทรงให้อภัยพวกเขาแล้ว พระองค์รู้สึกผิดหวังที่แพ้ในการยื่นอุทธรณ์ โดยอ้างว่าทางสำนักพระราชวังอังกฤษมีอิทธิพลต่อการตัดสินของศาลอุทธรณ์ให้ลดระดับการอารักขาความปลอดภัยให้กับพระองค์และครอบครัวขณะพำนักในอังกฤษ

เมื่อถูกถามว่าพระองค์ทรงเคยได้ขอให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงเข้ามาแทรกแซงปัญหาเรื่องการอารักขาความปลอดภัยให้กับพระองค์หรือไม่นั้น เจ้าชายแฮร์รีกล่าวว่า พระองค์ทรงไม่เคยขอให้กษัตริย์ชาร์ลส์มาแทรกแซงในเรื่องนี้ เพียงแต่ขอให้พระองค์ทรงหลีกทางให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญได้ทำงาน

เจ้าชายแฮร์รีทรงบอกอีกว่า การปฏิบัติที่พระองค์ได้รับในช่วงระหว่างการต่อสู้ทางกฎหมายเรื่องระดับการรักษาความปลอดภัยยิ่งเปิดเผยสิ่งที่พระองค์กลัวมากที่สุด และพระองค์ทรงมองไม่เห็นภาพการนำครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตในอังกฤษอีกครั้งในตอนนี้

ศาลอุทธรณ์อังกฤษได้ปัดตกการยื่นอุทธรณ์ของเจ้าชายแฮร์รีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของขณะกรรมการที่มีหน้าที่อารักขาสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์อังกฤษ ที่มีคำตัดสินว่าเจ้าชายแฮร์รีไม่มีสิทธิที่จะได้รับการอารักขาอย่างเต็มรูปแบบดังเช่นสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์พระองค์อื่นๆ โดยศาลมองว่าแม้เจ้าชายแฮร์รีจะมีการให้เหตุผลที่ฟังขึ้นเกี่ยวกับระดับของภัยคุกคามที่พระองค์และครอบครัวได้รับ แต่ความรู้สึกคับข้องใจไม่สามารถถูกใช้เป็นข้อโต้แย้งทางกฎหมายได้

เจ้าชายแฮร์รี วิจารณ์คำตัดสินว่าเป็น การเล่นเกมของชนชั้นปกครองแบบเก่าพร้อมกล่าวหาว่า ราชสำนักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลอยู่แล้ว และเชื่อว่าเรื่องนี้ควรจบลงด้วยการที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 เปิดทางให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ และไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซง

ขณะที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ตอบโต้ โดยระบุว่า ทุกประเด็นได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยศาลแล้ว และได้ข้อสรุปเช่นเดิมทุกครั้ง ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักรยืนยันว่าระบบการคุ้มครองของรัฐบาลมีความเข้มงวดและเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยให้เหตุผลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กับบุคคลที่มีฐานะ