วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568
18 เม.ย. 2568 10:24 | 199 view
@pracha
รบ.เตือน! เฝ้าระวัง 5 โรคยอดฮิต หลังเล่นน้ำสงกรานต์ แนะหากมีอาการรีบพบแพทย์
วันที่ (18 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่ออกไปร่วมสนุกกับกิจกรรมสาดน้ำอย่างชุ่มฉ่ำทั่วประเทศ อาจเป็นสาเหตุทำให้ เจ็บป่วยได้ง่ายๆ โดยโรคที่มักเกิดขึ้น มี 5 โรค ที่ไม่ควรมองข้ามช่วงหลังสงกรานต์คือ
1.โรคไวรัสตับอักเสบเอ มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสผ่านทางน้ำลาย แม้จะติดเชื้อแบบเฉียบพลันเท่านั้น จะไม่เป็นโรคตับเรื้อรัง แต่ก็อยู่ในลิสต์ที่ต้องระวัง โดยช่วงสงกรานต์หลายคนอาจมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใช้แก้วน้ำ ใช้ภาชนะร่วมกัน ซึ่งเชื้อไวรัสนี้จะทำให้ตับเกิดการอักเสบ เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปจะมีระยะฟักตัวราว 14-28 วัน เมื่อแสดงอาการผู้ป่วยจะมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดท้อง ถ่ายเหลว ท้องเสีย โดยปัสสาวะจะสีเข้ม อุจจาระสีอ่อน ซึ่งถ้าเคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ แล้ว มีโอกาสน้อยที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกเพราะมีภูมิต้านทานแล้ว เป็นโรคที่ควรระวังช่วงสงกรานต์
2.โรคตาแดงเกิดจากการติดเชื้อไวรัสจากการสัมผัสน้ำตาผู้ที่เป็นโรคตาแดงอยู่ก่อน โดยมืออาจไปสัมผัสเชื้อแล้วนำมือมาสัมผัสตาตนเอง หรืออาจได้รับเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ หรือจากน้ำที่กระเด็นเข้าตา โดยเชื้อใช้เวลาฟักตัว 1-2 วันก่อนแสดงอาการ ซึ่งมักตรวจพบเชื้อก่อโรคบริเวณตาและลำคอได้ตั้งแต่วันแสดงอาการถึง 14 วันหลังจากเริ่มมีอาการ โดยมีสัญญาณของอาการเริ่มจาก ระคายเคืองตา ปวดเล็กน้อยในเบ้าตา น้ำตาไหล เมื่ออาการรุนแรงขึ้นอาจทำให้เปลือกตาบวม ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตและกดเจ็บ จากนั้นเยื่อบุตาจะค่อย ๆ แดงขึ้นจนแดงก่ำ โดยส่วนใหญ่จะหายเองใน 1-3 สัปดาห์ แต่บางราย อาจมีอาการเรื้อรังเป็นเดือน จนทำให้เกิดพังผืดที่เยื่อบุตาได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการควรพบจักษุแพทย์จะดีที่สุด
3.โรคเชื้อราผิวหนัง ถือเป็นโรคฮิตที่พบได้เสมอหลังจากผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ จากการเล่นสาดน้ำติดต่อกันนานๆ โดยบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงจะเกิดโรคเชื้อราได้นั้น อาทิ บริเวณซอกต่าง ๆ บนร่างกาย เช่น ซอกนิ้วมือ นิ้วเท้า ขาหนีบ หรือข้อพับต่างๆ โดยเมื่อผิวหนังติดเชื้อรา จะมีลักษณะผิวเปื่อยลอก หรือผื่นแดงแฉะ หรือมีขุยขาวลอกออกมา แต่ถ้าเป็นชนิดผื่นหนา ผิวจะเปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งหากปล่อยให้ติดเชื้อเรื้อรัง ผื่นจะหนาขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ยากต่อการรักษาให้หายขาด ทั้งยังเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น ส่วนการรักษาโรคเชื้อราผิวหนัง มีคำแนะนำคือ ต้องทายาฆ่าเชื้อราสม่ำเสมอ แม้อาการดีขึ้นก็ไม่ควรหยุดทาทันที แต่ควรทาต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงยาทาฆ่าเชื้อโรคอื่นที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวหนัง หรือแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ยิ่งแห้งยิ่งคันมากขึ้น และควรรักษาความสะอาดโดยทำให้ผิวที่ติดเชื้อราแห้งอยู่เสมอ ก็จะป้องกันการเป็นซ้ำอีกได้
4.โรคท้องร่วง-ท้องเสีย เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งช่วงสงกรานต์เป็นฤดูร้อน เป็นช่วงที่เชื้อโรคเพิ่มจำนวนได้ง่าย ทำให้เสี่ยงที่จะป่วยโรคท้องเสียได้ง่ายด้วย โดยการดูแลเบื้องต้นนั้น ในรายที่ท้องเสียเฉียบพลัน อาการไม่มาก มีคำแนะนำให้ถ่ายออกมาจนหมด หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้ของเสียหรือเชื้อโรคยังสะสมอยู่ในลำไส้ และระหว่างมีอาการให้เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบ แต่ควรจะรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย และถ้าหากถ่ายบ่อยจนร่างกายอ่อนเพลีย ก็ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย แต่ถ้าผู้ที่ท้องเสียเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และผู้สูงอายุ ไม่ควรรักษาเอง แต่ควรไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพราะถ้าอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
และ 5. โรคปอดอักเสบ หรือที่เรียกว่า “ปอดบวม” โรคนี้เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอด โดยเฉพาะที่บริเวณถุงลมของปอด ซึ่งผู้ป่วยปอดอักเสบอาจมีอาการที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อายุผู้ป่วย และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปมักมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนนำมาก่อน เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย แต่บางรายก็อาจมีอาการไม่เฉพาะเจาะจง อาทิ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย หรือบางรายอาจหนาวสั่น
นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชนแนะประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคต่างๆ ที่ตามมาหลังสงกรานต์ ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้หลายระบบ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม หากมีอาการเจ็บป่วย ควรรีบพบแพทย์ทันที
ข่าว
19 เม.ย. 2568 15:04 23 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 14:08 67 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 14:01 60 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:49 48 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:42 63 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:40 48 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:38 95 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:36 40 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:47 91 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:43 59 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:32 88 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:27 71 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:22 60 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:17 64 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:15 69 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:13 69 views