นักวิชาการชี้ สงครามภาษีจีน-สหรัฐฯ ฉุดการค้าโลกทรุด เสี่ยงเศรษฐกิจโลกโตต่ำกว่า 2% ชี้ความผันผวนเปิดช่องเอื้อกลุ่มทุนใกล้ชิดทรัมป์หาผลประโยชน์จากข้อมูลภายใน

รศ. ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจเผชิญความเสี่ยงจากภาวะสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา หลังการเรียกเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้กันระหว่างสองประเทศเพิ่มสูงกว่า 100% ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศหันไปพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศอื่น หากกำลังการผลิตภายในไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด

มาตรการภาษีศุลกากรที่สูงเกิน 100% ก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งจีนและสหรัฐฯ ในเชิงโครงสร้าง และกดดันให้จีดีพีของโลกเติบโตต่ำกว่า 3% ในช่วงครึ่งปีแรก และอาจต่ำกว่า 2% ในครึ่งปีหลัง ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อระบบแรงงานและภาคการผลิต

แม้ตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะฟื้นตัวจากความกังวลหลังมีการยืดเวลาเก็บภาษีนำเข้า แต่กลับมีข้อสงสัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเจตนาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเครือข่ายธุรกิจผู้สนับสนุน ว่าอาจหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการสร้างความไม่แน่นอนทางนโยบายการค้าระหว่างประเทศ

วุฒิสมาชิกอลิซาเบธ วอเรน จากรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้ออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตรวจสอบกรณีการใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) และผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะคำกล่าวของทรัมป์ในช่วงที่ตลาดหุ้นดิ่งหนักว่า “This is a great time to buy” พร้อมทั้งประกาศเลื่อนการเก็บภาษีอีก 90 วัน ยกเว้นเฉพาะจีน

การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันและการส่งสัญญาณผ่านโซเชียลมีเดีย ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวรุนแรงในตลาดการเงิน สร้างช่องว่างของราคาหุ้นที่ผิดปกติอย่างยิ่ง กลายเป็นช่องโหว่ให้เครือข่ายพันธมิตรทางการเมืองหาผลประโยชน์จากความเสียหายของนักลงทุนส่วนใหญ่ รศ.ดร.อนุสรณ์ เน้นย้ำว่า ประเด็นนี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและพัฒนากลไกควบคุมเชิงระบบ เพื่อปกป้องความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจโลกในระยะยาว

#สงครามการค้า #เศรษฐกิจโลก #โดนัลด์ทรัมป์ #ภาษีนำเข้า #จีนสหรัฐ #InsiderTrading #ElizabethWarren #นักวิชาการเตือน #TV5HD #TV5HDONLINEก็