ถนนข้าวสารยอดจองห้องพักพีคแค่ 12-13% นักท่องเที่ยวจีน-เกาหลีหายวับ ธุรกิจชี้พิษแผ่นดินไหว-นโยบายทรัมป์ ฉุดบรรยากาศท่องเที่ยวสงกรานต์ 2568

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า แม้บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารจะเริ่มคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงบ่ายของวันดังกล่าว แต่ยอดจองห้องพักในพื้นที่ช่วงเทศกาลกลับไม่ได้สดใสเท่าที่คาดการณ์ไว้ โดยพบว่ายอดจองห้องพักพีคสุดเพียง 12-13% เท่านั้นในวันที่ 12-13 เมษายน แม้จะเต็ม 100% ในสองวันดังกล่าว แต่เมื่อเทียบกับปีก่อน กลับพบแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน

นักท่องเที่ยวจากจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งเคยเป็นกลุ่มหลักในช่วงสงกรานต์ มีอัตราการจองลดลงฮวบฮาบ โดยจีนลดลงจาก 10% เหลือเพียง 1% ขณะที่เกาหลีใต้ลดลงจาก 8% เหลือ 3% ส่วนคนไทยแทบไม่มีการจองห้องพักเลยจากเดิมที่เคยมีสัดส่วน 14% กลายเป็น 0% ในปีนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักกลายเป็นชาวยุโรป โดยเฉพาะจากประเทศสเปน เยอรมนี และอังกฤษ

นายสง่า เผยเพิ่มเติมว่า หลังวันที่ 13 เมษายน เป็นต้นไป ยอดจองห้องพักลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 60-70% ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนที่ยังคงมีอัตราเข้าพักสูงถึง 80% หลังสงกรานต์ผ่านพ้น อีกทั้งพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าปีนี้เม็ดเงินสะพัดในถนนข้าวสารจะหายไปถึง 30-40% จากเดิมที่เคยอยู่เฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อวัน

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบสำคัญ คือ ความวิตกของนักท่องเที่ยวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ของโลก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้แนวทางของ "ทรัมป์ 2.0" ที่อาจสร้างแรงกดดันทางจิตวิทยาต่อการเดินทางท่องเที่ยวในระดับสากล

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังคาดหวังว่า ในวันที่ 13-14 เมษายน กระแสโซเชียลและกิจกรรมในจุดต่าง ๆ จะช่วยดึงดูดคนให้ออกมาร่วมสนุกมากขึ้น หวังพลิกฟื้นบรรยากาศการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง