อธิบดี DSI ลงนามรับคดีนอมินีบ.ไชน่าฯ สร้างตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ ลุยสอบกรรมการไทยบังหน้า–ตั้งทีมสอบกว่า 35 คน

2 เมษายน 2568 – ความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สูง 30 ชั้น ถล่มลง จากแรงสั่นสะเทือนของเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ได้ประกาศรับคดีนี้ไว้เป็น คดีพิเศษที่ 32/2568 เป็นทางการ  ประเด็นสำคัญคือการตรวจสอบความเชื่อมโยงกับ การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือกรณี "นอมินี" โดยพบว่าบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นของชาวจีน อาจมีการใช้คนไทยถือหุ้นบังหน้า

อธิบดีดีเอสไอเปิดเผยว่า ได้ลงนามตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกว่า 35 คน จากหลากหลายหน่วยภายในดีเอสไอ ทั้งด้านคุ้มครองผู้บริโภค ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา และเจ้าหน้าที่ชำนาญการ เพื่อเร่งเดินหน้าสืบสวนข้อมูลเชิงลึก ทั้งรายชื่อกรรมการ หุ้นส่วน และผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยในบริษัทก่อสร้าง พร้อมตรวจสอบสัดส่วนการถือหุ้นและเอกสารทางธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 
เป้าหมายคือการพิสูจน์ว่า มีใครเป็นผู้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติหรือไม่ และทำไมจึงมีการถือหุ้นในลักษณะดังกล่าว ขณะเดียวกัน ดีเอสไอยังไม่ตัดประเด็นอื่น เช่น การจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง หากพบการกระทำผิดเพิ่มเติม ก็จะขยายผลรับเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติมในอนาคต

ในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) อธิบดีดีเอสไอจะประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามผลการลงพื้นที่สอบสวนข้อมูลเบื้องต้น และวางแนวทางสืบสวนขยายผลเชิงลึกต่อไป คดีนี้นอกจากจะเกี่ยวข้องกับ กฎหมายการถือครองธุรกิจของคนต่างชาติ แล้ว ยังเชื่อมโยงกับ ความปลอดภัยของโครงสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ ยิ่งหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ความตื่นตัวในการตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างจึงยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอาคารที่ใช้เงินภาครัฐและมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์