นายกฯแคนาดาคนใหม่เตรียมประกาศจัดการเลือกตั้งกะทันหันในวันที่ 28 เมษายน ซึ่งจะจุดชนวนให้เกิดการรณรงค์หาเสียงอย่างเข้มข้น โดยเน้นนโยบายตอบสนองต่อสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกระแสผนวกเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2568 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดาเตรียมประกาศจัดการเลือกตั้งกะทันหันในวันที่ 28 เมษายน ท่ามกลางวิกฤตขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอเมริกา ทั้งด้านสงครามการค้าและความมั่นคง

คาร์นีย์ซึ่งเข้ามาแทนที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เตรียมประกาศวันเลือกตั้งใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงสุดสัปดาห์ โดยการประกาศอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนถึงความปรารถนาของคาร์นีย์ที่จะใช้ประโยชน์จากผลสำรวจความนิยมของพรรคเสรีนิยมซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการถูกกดขี่ด้านภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และกระแสรักชาติจากกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ต้องการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51

ในช่วงต้นปีซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง พรรคเสรีนิยมดูเหมือนว่าจะพ่ายแพ้แน่ๆหากมีการเลือกตั้งใหม่ โดยพรรคฝ่ายค้านอนุรักษนิยมกำลังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไปไว้แล้ว

ท่ามกลางแรงกดดันอย่างไม่ลดละจากทรัมป์และความขัดแย้งภายในพรรค ทรูโดได้ประกาศแผนลาออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเกือบ 10 ปี

อย่างไรก็ตาม คาร์นีย์ซึ่งชนะคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจากการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ประสบความสำเร็จในการรวมพรรคเสรีนิยมให้เป็นหนึ่งเดียวในขณะที่เผชิญหน้ากับทรัมป์และความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากสงครามการค้า

การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเป็นแคมเปญแรกของคาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางวัย 60 ปีที่ไม่เคยได้รับตำแหน่งสาธารณะใดๆจากการเลือกตั้งเลย

เขายืนยันว่าประสบการณ์ในการนำธนาคารแห่งแคนาดาฝ่าฟันวิกฤตการเงินในปี 2008-2009 และในฐานะหัวหน้าธนาคารแห่งอังกฤษในช่วงการลงประชามติเบร็กซิต ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ

คาร์นีย์เรียกประเทศสหรัฐอเมริกาของทรัมป์ว่าเป็นประเทศที่แคนาดา "ไม่สามารถไว้วางใจได้อีกต่อไป" และเตือนชาวแคนาดาว่าความสัมพันธ์กับรัฐบาลวอชิงตันอาจเปลี่ยนไปอย่างถาวร

หลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คาร์นีย์เดินทางไปปารีสและลอนดอนทันที เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรในยุโรป เนื่องจากความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ กำลังเสื่อมถอยลง

"สิ่งที่ชัดเจนคือ ความสัมพันธ์ทางการค้าและความมั่นคงของเรานั้นพึ่งพาสหรัฐฯ มากเกินไป เราต้องกระจายความเสี่ยง" คาร์นีย์กล่าว

พรรคอนุรักษนิยมได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และผู้นำพรรคอย่างปิแอร์ ปอยลิเยฟร์ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่ประชาชนคาดหวังให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

แต่ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสูสีกันมาก โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนยังไม่เชื่อมั่นว่าปอยลิเยฟร์จะสามารถต่อกรกับทรัมป์ได้

ปอยลิเยฟร์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า แคนาดาต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง และเสริมว่าแผนของเขาคือการทำให้เศรษฐกิจพึ่งพาสหรัฐน้อยลงและให้แคนาดามาก่อนเป็นอันดับแรก

เจเนวีฟ เทลลิเออร์ ศาสตราจารย์ด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยออตตาวา กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็น "การเลือกตั้งที่ไม่ธรรมดาในบริบทที่ไม่ปกติ" โดยพรรคอนุรักษนิยมและพรรคการเมืองอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำขู่ของทรัมป์ เพราะนั่นเป็นผลดีต่อพรรคเสรีนิยมในตอนนี้.