วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568
21 มี.ค. 2568 11:44 | 341 view
@pracha
‘คลัง’ เล็งซื้อหนี้ประชาชนกลุ่มไม่เกิน 1 แสนบาท หวังอุ้มหลุด NPL พร้อมเร่งดันมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง คาดช่วยจูงใจผู้ซื้อบ้าน ด้าน ‘แบงก์ชาติ’ ปลดล็อกเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ช่วยประคองอสังหาริมทรัพย์ไทย
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวถึงการหารือกับสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการหารือถึงการปล่อยสินเชื่อใหม่ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งจะเป็นโครงการขั้นต่อไปที่ต่อเนื่องจากโครงการคุณสู้ เราช่วย ที่คาดว่าจะมีคนที่ผ่านเกณฑ์และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ประมาณ 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลัก ๆ คือที่อยู่อาศัย กลุ่มนี้ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากนี้จะต้องมาดูกลุ่มลูกหนี้ ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และเป็นหนี้จากบัตรเครดิต และหนี้จากการบริโภค โดยกลุ่มนี้คิดเป็น 35% ของหนี้เสีย (NPL) ที่ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องเข้าไปดูว่าจะสามารถเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไร จะปรับอย่างไร โดยอาจจะต้องมีการจัดกลุ่มให้ดี ๆ และระบุให้ชัดเจนว่าจะมีการปรับโครงสร้างหนี้เท่าที่ลูกหนี้จะมีกำลัง รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีการให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้คนกลุ่มนี้กลับมายืนได้แน่นอน และถ้าดึงกลุ่มนี้ออกมาสถานการณ์หนี้ครัวเรือนก็จะดีขึ้น
“ปัจจุบันมีหนี้ครัวเรือนทั้งหมด 13 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ไม่รวมหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ โดยคิดเป็นประมาณ 9 ล้านบัญชี 5 ล้านกว่าราย ซึ่งเมื่อเข้าไปดูจริง ๆ จะพบว่ามีคนที่มีหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาท ประมาณ 35% ของหนี้เสีย 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าในส่วนนี้สถาบันการเงินได้มีการกันสำรองครบ 100% แล้ว โดยขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะดึงหนี้ส่วนนี้ออกมาอย่างไรเพราะเจ้าหนี้ติดต่อลูกหนี้ไม่ได้ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้ปลดล็อกให้คนที่เคยติดเครดิตบูโรให้สามารถกลับมากู้เงินได้ ซึ่งตรงนี้มีแนวทางอยู่แล้ว โดยยอมรับว่าการแก้ปัญหาพวกนี้คงไม่เสร็จภายใน 3-6 เดือน เพราะเป็นปัญหาใหญ่ทั้งประเทศ ต้องใช้เวลา และต้องทำเป็นขั้นตอนอย่างสมเหตุสมผล” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ยังกล่าวถึงกรณีการซื้อหนี้ โดยการนำแนวคิดเรื่องการตั้ง AMC ขึ้นมาใช้ดำเนินการนั้น มองว่าต้องเป็นการทำงานร่วมกันกับทั้งเจ้าของหนี้ สถาบันการเงิน คนที่จะเข้ามาร่วมจัดการ ขณะที่รัฐบาลจะสนับสนุนและกำกับอย่างไร ต้องมาระดมกำลังทำงานร่วมกัน อาจจะต้องจัดกลุ่มหนี้ย่อย ๆ ออกมา และมาดูข้อมูลให้ละเอียด เพื่อหาแนวทางทำงานที่สอดคล้องกันมากที่สุด ส่วน AMC ที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น AMC ของธนาคารออมสินนั้น ในหลักการก็สามารถทำเรื่องนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกคนมีกำลังจำกัด
อย่างไรก็ดี นายพิชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าแนวคิดเรื่องการซื้อหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณเลย ว่า อย่าไปพูดว่าไม่ใช้เงินของงบประมาณเลย มันอาจจะใช้นิดหน่อยก็ได้ จึงอยากขอดูในรายละเอียดและโครงสร้างต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน
นอกจากนี้ ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งเป็นมาตรการที่สนับสนุนการโอนและการขายให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงยังช่วยจูงใจผู้ซื้อด้วย โดยยืนยันว่าจะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะมีข้อสรุปภายใน 1 เดือน
นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันชะลอตัวต่อเนื่องและยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับจากการหารือกับทั้งผู้ประกอบการในธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงิน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) จึงเห็นควรให้ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เกณฑ์ LTV)
โดยประเมินว่าการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV จะช่วยประคับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยบรรเทาปัญหาอุปทานคงค้างที่อยู่ในระดับสูงได้บ้าง จึงอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้จำกัด ขณะที่การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินมากนัก เนื่องจากในปัจจุบันภาวะการเงินตึงตัวและสถาบันการเงินระมัดระวังในการให้สินเชื่อ
“คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกณฑ์ LTV ของไทยผ่อนคลายมากอยู่แล้วเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และการบังคับใช้เกณฑ์ LTV ยังมีความสำคัญเพื่อดูแลมาตรฐานการให้สินเชื่อของระบบสถาบันการเงิน ช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้กู้จะได้รับสินเชื่อที่ไม่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่จะมาจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์” นายสมชาย กล่าว
สำหรับสาระสำคัญของการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV มีดังนี้ 1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณีมูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และมูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป และ 2. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2569
ข่าว
22 มี.ค. 2568 19:58 34 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 19:42 18 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 19:01 79 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 15:55 131 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 14:41 155 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 14:38 136 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 14:34 124 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 14:26 114 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 14:22 123 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 12:58 148 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 12:54 142 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 12:32 143 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 12:25 140 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 11:38 141 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 11:32 181 views
ข่าว
22 มี.ค. 2568 11:25 161 views