เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ที่ชุดปฎิบัติการลาดตระเวนป้องกันไฟป่า กองพันมณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ยังคงจัดกำลังพลและเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังตรวจตราอยู่ในผืนป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งการเดินเท้าลาดตระเวนในพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง จากแนวป่าผาดำ บนยอดดอยสุเทพ-ปุย ตำบลสุเทพ ไปจนถึงแนวป่าเขตตำบลแม่เหียะ นอกจากนี้ยังได้ตั้งจุดตรวจผู้ที่จะเข้าไปในป่า เป็นการเฝ้าระวังป้องปรามการลักลอบเผาป่าในพื้นที่เสี่ยงซ้ำซากติดกับตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะหากเกิดไฟป่าขึ้น ฝุ่นควันไฟก็จะส่งผลกระทบกับชาวเชียงใหม่ที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองโดยตรง สำหรับการปฏิบัติในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 ที่ได้จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการร่วม จำนวน 208 ชุด บูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการออกลาดตระเวนป้องกันปัญหาไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

ส่วนในพื้นที่อำเภอแม่จัน และที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มณฑลทหารบกที่ 37 ยังคงจัดกำลังพล ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนในแต่ละพื้นที่ ออกรณรงค์ประชาสัมพันธ์ห้ามเผาอย่างเด็ดขาด ตามประกาศของทางจังหวัด ห้วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2568 โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุด ทั้งนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ให้กับประชาชน ซึ่งนอกจากจะรณรงค์ประชาสัมพันธ์แล้ว ยังได้จัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันไฟป่า พร้อมทั้งช่วยกันทำแนวกันไฟ ป้องกันไฟป่าที่อาจจะลุกลามขยายวงกว้าง หากเกิดไฟป่าขึ้นในแต่ละพื้นที่ด้วย