×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568

?>

‘นักเรียน’เฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผมนักเรียน’ ชี้จำกัดเสรีภาพ

 5 มี.ค. 2568 12:44 | 214 view

 @pracha

Facebook X Share

‘นักเรียน’เฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผมนักเรียน’ ชี้จำกัดเสรีภาพ-ไม่สอดคล้องพัฒนาการของอัตลักษณ์ทางเพศ-บุคลิกภาพเด็กตามช่วงวัย

5 มีนาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด เผยแพร่คำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ฟร.24/2563 เพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ซึ่งเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่ไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน

ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 ซึ่งกำหนดว่า การแต่งกาย และความประพฤติดังต่อไปนี้ ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน นักเรียนชายดัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้าง และด้านหลังยาวเลยตีนผม หรือไว้หนวดไว้เครา นักเรียนหญิงดัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ผมยาวเกินกว่านั้น ก็ให้รวบให้เรียบร้อย นักเรียนใช้เครื่องสำอางหรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวยนั้น มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับทรงผมและการใช้เครื่องสำอางของนักเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา

กรณีถือได้ว่าเป็นกฎที่มีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของบุคคลผู้มีสถานะเป็นนักเรียน โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 ซึ่งเป็นฐานอำนาจในการออกกฎกระทรวงดังกล่าว ระบุเหตุผลว่า เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาเป็นเยาวชนที่กำลังสร้างสมคุณสมบัติทั้งในด้านความรู้ ความคิดและคุณธรรม พร้อมที่จะรับมรดกตกทอดจากผู้ใหญ่เป็นพลเมืองดีมีประโยชน์แก่ประเทศชาติในอนาคต นักเรียนและนักศึกษาควรจะได้รับการอบรมดูแลใกล้ชิดจากบิดามารดา ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ เพื่อเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครู อยู่ในโอวาทคำสั่งสอน รวมทั้งอยู่ในระเบียบประเพณีและกฎหมายของบ้านเมือง

เมื่อต่อมา ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ปรากฏหลักการและเหตุผล ในการประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ว่า ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 กำหนดสาระสำคัญและรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก ไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน โดยมาตรา 22 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว บัญญัติว่า การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง (1) บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก และกฎกระทรวงกำหนดแนวทางการพิจารณาว่าการกระทำใดเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเด็ก พ.ศ.2549 กำหนดว่า การกระทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กให้พิจารณาถึง (1) ลักษณะเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน (2) ความเหมาะสม ความต้องการ และความจำเป็นของเด็ก

ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า เจตนารมณ์ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2515 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518 ลงวันที่ 6 มกราคม 2518) ที่กำหนดข้อห้ามสำหรับนักเรียนเกี่ยวกับการไว้ทรงผมและการใช้เครื่องสำอาง ระบุวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองดีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ การเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา การเป็นศิษย์ที่ดีของครู โดยกำหนดให้อยู่ในคำสั่งสอนและโอวาทของผู้ใหญ่และระเบียบประเพณี โดยมิได้คำนึงถึงสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และพัฒนาการของอัตลักษณ์และบุคลิกภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัยจากช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 6-7 ปี จนถึงช่วงวัยรุ่นอายุ 13-16 ปี ซึ่งมีสถานะนักเรียนที่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวงดังกล่าว

กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าประกาศของคณะปฏิวัติฯ และกฎกระทรวงที่พิพาท เป็นกฎที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และยังอาจมีการบังคับใช้กฎที่พิพาทนั้นอย่างเคร่งครัดจนมีผลร้ายต่อจิตใจของเด็กที่มีความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ อันเป็นการขัดกับหลักการและบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 จึงต้องถือว่าเป็นกฎที่ถูกยกเลิกไปโดยมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เนื่องจากมีเจตนารมณ์ที่ขัดกับหลักการและบทบัญญัติมาตรา 22 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

อีกทั้งตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน ได้กำหนดว่า นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2562 ซึ่งแม้จะมิได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับทรงผมนักเรียนไว้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่โรงเรียนหรือสถานศึกษาอาจกำหนดระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมนักเรียนไว้เป็นองค์ประกอบย่อยของข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกาย โดยพิจารณาให้สอดคล้องตามหลักการเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กและคำนึงถึงการพัฒนาอัตลักษณ์และบุคลิกภาพที่เหมาะสมตามช่วงอายุของนักเรียนได้

ประกอบกับเมื่อพิจารณาเนื้อหาของกฎกระทรวงฉบับที่พิพาท ซึ่งกำหนดลักษณะทรงผมของนักเรียน โดยมิได้คำนึงถึงพัฒนาการของบุคลิกภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัยและความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล จึงมีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งกระทำมิได้ตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติว่าการตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้ กฎกระทรวงดังกล่าวจึงเป็นกฎที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ

พิพากษาให้เพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ลงวันที่ 6 มกราคม 2518 ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คำพิพากษาในวันนี้สืบเนื่องจาก ตัวแทนนักเรียน กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท พร้อมด้วยทนายความเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อปี 2563 เพื่อขอให้เพิกถอนกฎระเบียบเกี่ยวกับการไว้ผมทรงผมของนักเรียน โดยมีกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และขอให้ศาลปกครองพิจารณารับฟ้องและมีคำสั่งเพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2518 และขอให้เพิกถอนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ทบ. ออกระเบียบกำหนดมาตรฐานการลงโทษ พร้อมจัดนิทรรศการให้ความรู้ ผบ.หน่วย ทั่วประเทศ

5 มี.ค. 2568 16:51 193 views

ข่าว

นบ.ยส.24 รวบ3ผู้ต้องหา ยาบ้า-ไอซ์

5 มี.ค. 2568 16:24 110 views

ข่าว

บทบาทสถาบันอุดมศึกษาเอกชนกับอนาคตการศึกษาไทย

5 มี.ค. 2568 16:23 103 views

ข่าว

“ในหลวง - พระราชินี” เสด็จฯทรงประกอบพิธีสมโภช พระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา"

5 มี.ค. 2568 15:40 157 views

ข่าว

จบปีนี้แน่!!! ‘ศาลปค.สูงสุด’แจงคืบหน้า คดีจำนำข้าว‘ยิ่งลักษณ์’

5 มี.ค. 2568 14:38 236 views

ข่าว

‘ผบ.ทสส.’ถก‘บอร์ด ปชด.’นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน คลายยาแรง‘ตัดไฟ-น้ำมัน’เมียนมา

5 มี.ค. 2568 14:35 221 views

ข่าว

กิจกรรม World Hearing Day 2025 รักษ์หู ใส่ใจการได้ยิน

5 มี.ค. 2568 13:28 109 views

ข่าว

"อนุทิน"รับพา"เนวิน"เข้าพบ"ทักษิณ-นายกฯอิ๊งค์"บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง บอกคุยหลายเรื่อง

5 มี.ค. 2568 13:07 180 views

ข่าว

‘ชัชชาติ’ สั่ง 50 เขตลุยตรวจร้านอาหารทั่วกรุง จี้ต้องมีถังดักไขมัน ให้เวลา 3 เดือนก่อนเจอคุก ปรับหนัก

5 มี.ค. 2568 12:49 210 views

ข่าว

‘นักเรียน’เฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผมนักเรียน’ ชี้จำกัดเสรีภาพ

5 มี.ค. 2568 12:44 215 views

ข่าว

สะพัด ! 4ผู้มีอิทธิพลได้พบกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเคลียร์ใจลงตัวหรือไม่

5 มี.ค. 2568 09:51 264 views

ข่าว

คณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช. คัดเลือก 3 รายชื่อจากผู้สมัคร 34 คน เตรียมเสนอวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ

5 มี.ค. 2568 09:47 211 views

ข่าว

รัฐบาลปักกิ่งยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีน

5 มี.ค. 2568 09:43 233 views

ข่าว

ราคาทองวันนี้ 5 มี.ค. 68 

5 มี.ค. 2568 09:41 248 views

ข่าว

จีนประกาศตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐทันควัน ด้วยการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐร้อยละ 10-15

5 มี.ค. 2568 09:38 206 views

ข่าว

'เซอร์เบีย'เดือด! ฝ่ายค้านจุดระเบิดควัน-แก๊สน้ำตาในสภา

5 มี.ค. 2568 09:36 194 views