วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568
5 มี.ค. 2568 09:38 | 206 view
@pracha
จีนประกาศตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐทันควัน ด้วยการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐร้อยละ 10-15 หลากหลายรายการในส่วนของสินค้าด้านการเกษตรและอาหาร ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งประกาศรายชื่อบริษัทอเมริกัน 25 แห่งที่อยู่ภายใต้มาตรการเช้มงวดด้านการส่งออกและการลงทุน
4 มี.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกร้อยละ 25 ตั้งแต่ เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา เที่ยงคืน 1 นาที ของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย พร้อมกับเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีกร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 20 รวมทั้งเตรียมเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าสหรัฐฯ จากทั่วโลกเริ่ม 12 มีนาคมนี้ ด้านจีน แคนาดา เม็กซิโกโต้กลับ เล็งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอาหารและเกษตรของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้สั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนไปแล้วร้อยละ 10 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ สินค้าจีนจะต้องถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเป็นร้อยละ 20 ส่งผลให้ทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้า 3 รายที่ใหญ่สุดของสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับกำแพงอุปสรรคการค้าที่สูงขึ้นอย่างมาก
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จีน แถลงการณ์ว่า จีนตอบโต้ทันควันทันทีที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ ด้วยการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ร้อยละ 10-15 หลากหลายรายการในส่วนของสินค้าด้านการเกษตรและอาหาร ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งประกาศรายชื่อบริษัทอเมริกัน 25 แห่งที่อยู่ภายใต้มาตรการเช้มงวดด้านการส่งออกและการลงทุน
ขณะที่ เมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา เผยแคนาดาเตรียมเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าทั้งหมด 155,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์เป็นชุดแรก โดยแคนาดาพร้อมจะเริ่มเก็บภาษีในทันทีสำหรับสินค้าพาสตา เสื้อผ้าและน้ำหอมจากสหรัฐฯ
สหรัฐฯ อ้างว่ามาตรการภาษีนี้ เพื่อลงโทษจีนที่จัดหาสารเคมีที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล (fentanyl) ที่เป็นยาแก้ปวดสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์รุนแรงใช้ในการรักษาอาการปวดรุนแรง อย่างไรก็ตาม เฟนทานิลยังเป็นยาเสพติดที่อันตรายและมีการใช้ในทางที่ผิดอย่างแพร่หลาย ในขณะที่จีนยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
ข่าว
5 มี.ค. 2568 16:51 193 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 16:24 110 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 16:23 103 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 15:40 157 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 14:38 237 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 14:35 221 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 13:28 109 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 13:07 180 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 12:49 210 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 12:44 215 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:51 264 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:47 211 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:43 233 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:41 248 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:38 207 views
ข่าว
5 มี.ค. 2568 09:36 194 views