อังกฤษต้อนรับผู้นำยูเครนอบอุ่น หลังปะทะเดือดกับทรัมป์จนถูกตะเพิด

ลอนดอน/บรัสเซลส์ (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - นายกรัฐมนตรี เคียร์สตาร์เมอร์ ของอังกฤษให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นแก่ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์เซเลนสกี ของยูเครน ที่เพิ่งปะทะคารมอย่างดุเดือดขณะไปพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวก่อนเดินทางออกจากสหรัฐฯ แบบไร้ข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐฯ

ผู้นำยูเครนเดินทางถึงกรุงลอนดอนในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 1 มี.ค. ก่อนเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ซึ่งเข้าสวมกอดและจับมือกับเซเลนสกี และร่วมถ่ายภาพด้านหน้าประตูทำเนียบทำเนียบบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่งในกรุงลอนดอน โดยมีฝูงชนมาร่วมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ สตาร์เมอร์กล่าวว่าประชาชนแห่งสหราชอาณาจักรออกมาแสดงความสนับสนุนและความมุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างยูเครน พร้อมกับย้ำว่าสหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนเซเลนสกีอย่างเต็มที่และจะอยู่เคียงข้างตราบนานเท่านาน สตาร์เมอร์และเซเลนสกียังเป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลงการกู้ยืมสำหรับยูเครนมูลค่า 2,260 ล้านปอนด์ ประมาณ 97,000 ล้านบาท) และจะใช้ผลกำไรที่รวบรวมจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดมาจ่ายหนี้คืน สตาร์เมอร์ระบุด้วยว่า เขาหวังว่าจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินของรัสเซียทั้งหมดในอังกฤษในอนาคตอันใกล้

หลังเสร็จสิ้นการหารือกับผู้นำอังกฤษ เซเลนสกีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป หรืออียูในวันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค. เพื่อหารือแผนสันติภาพสำหรับยูเครนและความสัมพันธ์ของสหรัฐฯกับยูเครน เซเลนสกียังมีกำหนดการเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรด้วย

ด้านประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้โทรศัพท์สนทนากับผู้นำยูเครน สหรัฐฯ อังกฤษ ประธานคณะมนตรียุโรป และเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นและให้เกียรติกัน จึงจะสามารถเดินหน้ากันต่อไปได้ เพราะสิ่งที่เป็นเดิมพันในขณะนี้มีความสำคัญมาก

เซเลนสกีเดินทางมาจากสหรัฐฯที่ซึ่งเกิดการปะทะคารมดุเดือดกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ถึงขั้นที่นายทรัมป์ขู่จะถอนการสนับสนุนยูเครน เนื่องจากเห็นว่ายูเครนไม่ให้เกียรติสหรัฐฯ และดูเหมือนไม่พร้อมสำหรับข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย

ด้าน มาร์ค รุทเทอ เลขาธิการนาโตกล่าวถึงการหารือทางโทรศัพท์กับเซเลนสกีหลังเกิดประเด็นขัดแย้งกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาว โดยได้บอกกับเซเลนสกีว่า ต้องให้การเคารพและเครดิตกับสิ่งที่ทรัมป์ทำเพื่อยูเครนด้วย เพราะทรัมป์เป็นผู้อนุมัติให้ส่งจรวดต่อต้านรถถัง “เจเวลิน” ให้ยูเครน ช่วยให้สามารถสู้รบต้านทานการบุกโจมตีของรัสเซียได้จนถึงทุกวันนี้ รุทเทอยังเรียกทรัมป์ว่าเพื่อน แต่ไม่ได้กล่าวถึงโดยตรงกรณีที่ทรัมป์กล่าวหาเซเลนสกีว่า กำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่เชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ ต้องการนำยูเครนไปสู่สันติภาพถาวร และด้วยเหตุนี้ ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันเพื่อนำไปสู้จุดนั้น