นายกฯสั่งการเร่งดำเนินการถนนฝั่งไทย 300 ม. ที่ด่านสะเดาแห่งใหม่ เชื่อมกับมาเลเซีย ให้เสร็จโดยเร็วพร้อมเปิดให้บริการให้ใด้ภายในปีนี้ จะเปิดการค้าและการท่องเที่ยวจะคึกคักอย่างแน่นอน

วานนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 14.00 น. ที่ด่านศุลกากรสะเดา ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของประเทศมาเลเซีย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานความคืบหน้าโครงการถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย โดยนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ถึงการเปิดให้บริการของด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ว่า ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2562 แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เนื่องจากถนนเชื่อมต่อจากด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ไปยังด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซียไม่สอดคล้องกับพื้นที่การใช้งานของประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างด่านศุลกากรทั้งสองแห่งให้เสร็จสมบูรณ์ โดยนายกรัฐมนตรีมีดำริให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปร่วมกันพิจารณาเร่งรัดดำเนินการโดยเฉพาะช่วงส่วนต่อขยายที่ต้องไปเชื่อมกับถนนของมาเลเซียที่มีระยะทางเพียงแค่ 300 เมตรในวงเงินงบประมาณ 28 ล้านบาทก็ขอให้เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบภายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สำหรับโครงการนี้ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้เสนอรายละเอียดของการดำเนินโครงการไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย (งบกลาง) พ.ศ. 2568 วงเงินรวม 98 ล้านบาท สำหรับใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างถนน จำนวน 2 เส้นทาง


ดังนี้ 1.โครงการก่อสร้างถนนเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะที่ 2 (โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย) ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 600 เมตร วงเงิน 28 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 6 เดือน

และ 2.โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงสายพรุเตียว - ด่านสะเดาแห่งที่ 2 ระยะทาง 1,150 เมตร วงเงิน 70 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 12 เดือน สำหรับมูลค่าการค้ารวมที่ผ่านเข้าออกทางด่านศุลกากรสะเดา ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 450,189 ล้านบาท (เกินดุล 17,192 ล้านบาท = 8%) ส่วนไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567) ด่านศุลกากรสะเดา มีมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 114,086 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่านำเข้า จำนวน 51,288 ล้านบาท และมูลค่าส่งออก จำนวน 62,799 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าการค้ารวมในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2567 จำนวน 2,044 ล้านบาท คิดเป็น +1.8% โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของกรมศุลกากร พร้อมย้ำเรื่องของไทม์ไลน์การขยายพื้นที่การก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาขอให้ทุกฝ่ายเร่งรัดการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดใช้ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจสอบบริเวณเขตก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร