“มวยไทย เวิลด์ เฟสติวัล 2025” มหัศจรรย์มวยไทยแห่งสยาม..สู่ที่สุดของการต่อสู้ระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า สยาม พารากอน ระหว่างวันที่ 5-9 กุมภาพันธ์ 2568 โดย สำนักนายกรัฐมนตรี,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมศิลปะการต่อสู้มวยไทยสู่ระดับสากล ให้เป็นที่รู้จักในเชิงลึกมากขึ้น ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม การออกกำลังกาย ถือเป็นการผลักดันมวยไทยตามนโยบาย “ซอฟท์พาวเวอร์“ ของรัฐบาล สร้างเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ปิดฉากลงแล้วอย่างงดงาม หลังจัดกิจกรรมกันมา 5 วันเต็ม 

โดยเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 กิจกรรมถูกจัดขึ้นเป็นวันสุดท้าย บรรยากาศของงานมหกรรมมวยไทยระดับโลกที่รวบรวมทุกองคาพยพมาไว้ที่เดียว ยังเต็มไปด้วยความสนุก ที่มีทั้งสาระและความบันเทิงมาเสิร์ฟให้กับผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสและเปิดประสบการณ์โลกมวยไทยในทุกมิติ 

งานวันสุดท้ายทุกโซนของการจัดกิจกรรมยังคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่เข้ามาร่วมงานกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งโซนการจัดงานนิทรรศการมวยไทย ที่บริเวณชั้น 3 รวมไปถึงบูธสินค้าและบริการเกี่ยวกับกีฬามวยไทย ด้านการแสดงโชว์มวยไทย 4 ภาค หรือโชว์มวยตับจาก ซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบันก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ขณะที่ศึกมวยไทยสปอร์ตโชว์เคส ในรายการ มวยมาสเตอร์คลาส ก็เปิดโอกาสให้นักเรียนที่เข้าร่วมเรียนศิลปะแม่ไม้มวยไทยกับ 4 ซูเปอร์สตาร์มวยไทยในมหกรรมเวิลด์มวยไทยเฟสติวัล 2025 ขึ้นเวทีโชว์ฝีมือ พร้อมสัมผัสเกมการชกจริง ก่อนจะปิดท้ายความสนุกและปิดฉากมหกรรมมวยไทย ด้วยคอนเสิร์ตจากหมอลำอปป้าขวัญใจชาวอีสาน อย่าง ลำเพลิน วงศกร 

ด้านผลมวยไทยในศึกมวยไทยประจัญบานเมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าสู้กันอย่างสนุก ซึ่งผลทั้ง 5 คู่ มีดังนี้ สำออยน้อย เพชรหนองกี่ แพ้คะแนน ออตมาน โรฮูนี (โมร็อคโค),  น้องแอ้ม แฟร์เท็กซ์ แพ้คะแนน น้องนุ๊ก เกียรติหมู่ 4,   Y2K แฟร์เท็กซ์ แพ้คะแนน มาจิด เซย์ดาลี (อิหร่าน),  ฉัตรเพชร ร.ร.กีฬาลำปาง ชนะคะแนน อายูบ บาห์รี (แอลจีเรีย) และ ศักดิ์ศรี ซุปเปอร์เล็กมวยไทย ชนะคะแนน สุทิน เกียรติหมู่4

นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า มวยไทยไม่ใช่เพียงศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นมรดกตกทอดอันล้ำค่าที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ อย่างเช่นในมหกรรมมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025 ก็มีการจัดงานวันมวยไทย ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ขึ้น เพื่อแสดงถึงความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าเสือ ซึ่งมรดกเหล่านี้ตกทอดกันมาจนเป็นมรดกที่สำคัญของประเทศไทย

“ในยุคนี้ที่โลกกำลังมีความเปลี่ยนแปลง มีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก ประเทศไทยมีมรดกที่ล้ำค่าก็คือมวยไทยที่ปรากฎสู่สายตาคนทั้งโลก ผ่านวัฒนธรรม ผมคิดว่าวันนี้มวยไทยได้ก้าวขึ้นมาเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญและทรงพลังที่สุดของเมืองไทย ควบคู่ไปกับอาหารไทย มวยไทยได้รับการส่งเสริม ฝึกฝนทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างมากมาย ซึ่งมวยไทยถือเป็นการผสมผสานทั้งในเรื่องของศิลปะวัฒนธรรม ศิลปะการต่อสู้ และที่สำคัญยังต่อยอดไปสู่การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพได้ด้วย” 

“วันนี้ทุกๆประเทศทุกๆสังคม สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย ผมคิดว่ามวยไทย จะเป็นส่วนสำคัญที่จะนำพัฒนาไปสู่การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ทุกคนคุ้นเคยและได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งงานมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025 ก็ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมพลังของคนในวงการมวยไทยทุกแขนงทุกๆอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นี่คือการประกาศศักดิ์ดาด้วยว่ามวยไทยเวิลด์เฟสติวัลครั้งต่อไปจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งคนไทยและคนต่างประเทศมารวมกัน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองมวยไทยเวิลด์เฟสติวัลในครั้งต่อๆไป ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และวันที่ 6 กุมภาพันธ์”

นายแพทย์ สุรพงษ์ เผยอีกว่า งานมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025 ยังมีการจัดงานเชิดชูเกียรติ ในวันมวยไทย 6 กุมภาพันธ์ ให้กับบุคคลที่สร้างเกียรติคุณในการส่งเสริมมวยไทย มีการจัดอบรมมาสเตอร์คลาส โดยมี 4 นักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์ ที่เป็นไอดอลและแรงบันดาลใจให้กับใครๆหลายคนมาร่วมถ่ายศาสตร์แม่ไม้มวยไทยด้วยตัวเอง มีการชกมวยไทยในศึกต่างๆ มีการออกบูธงานมวยไทยแฟร์ ต้องถือว่างานนี้เป็นงานที่รวบรวมทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่รัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เคยพูดในงานประชุมระดับโลก เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งพิธีกรในงานถามว่าอะไรเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ท่านนายกก็ตอบไปว่า มวยไทย ซึ่งมวยไทยก็จะเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่รัฐบาลส่งเสริมให้เกิดความแพร่หลาย และส่งออกวัฒนธรรมไทยไปสู่เวทีโลกด้วย 

”สำหรับงานมวยไทยเวิลด์เฟสติวัลนั้น ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่มวยไทยออกไปสู่สายตาชาวโลก ซึ่งก็ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสได้สัมผัสกับคุณค่าที่ลึกซึ้งของวัฒนธรรมไทยและศิลปะมวยไทยจากที่เข้ามาร่วมชม หรือดูกิจกรรมต่างๆผ่านการไลฟ์สด และแน่นอนว่าก็ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของไทยในด้านอุตสาหกรรมกีฬาและการท่องเที่ยวด้วย“  นายแพทย์ สุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย