‘โดนัลด์ ทรัมป์’ไอเดียกระฉูด จะให้สหรัฐฯเข้าครองฉนวนกาซา สร้างเป็น "ริเวียร่าตะวันออกกลาง"

วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น/บีบีซีนิวส์)-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สร้างประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการเสนอให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในอียิปต์และจอร์แดน แล้วสหรัฐฯ จะเข้าไปควบคุมฉนวนกาซาเพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง” ขณะที่หลายฝ่ายแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

โดยในระหว่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ที่เดินทางไปเยือนยังทำเนียบขาว และเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่พบกับทรัมป์หลังรับตำแหน่ง ทรัมป์เสนอให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในอียิปต์และจอร์แดน แล้วสหรัฐฯ จะเข้าไปควบคุมฉนวนกาซา พร้อมกับอธิบายข้อเสนอนี้ว่า ขณะนี้ ฉนวนกาซาเสียหายอย่างหนักจากสงครามเป็นสัญลักษณ์ของความตายและการทำลายล้าง ชาวปาเลสไตน์จึงไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากย้ายไปอาศัยอย่างถาวรในอียิปต์และจอร์แดน ส่วนฉนวนกาซานั้น สหรัฐฯ จะเข้าไปครอบครอง เพื่อกอบกู้ฟื้นฟู แล้วพัฒนาทางเศรษฐกิจให้สวยงาม ยิ่งใหญ่และสร้างงานมากมายจนกลายเป็น “ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง” ที่คนในตะวันออกกลางต้องภาคภูมิใจอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุขั้นตอนและรายละเอียด หรือแม้แต่วิธีที่จะทำให้สหรัฐฯ สามารถครอบครองเป็นเจ้าของฉนวนกาซาได้

ข้อเสนอของทรัมป์ให้ชาวปาเลสไตน์ออกไปจากฉนวนกาซา ตรงกับสิ่งที่ฝ่ายชาตินิยมขวาจัดของอิสราเอลต้องการ แต่ขัดกับหลักการที่นานาชาติพยายามผลักดันเพื่อให้เกิดสันติภาพอย่างถาวรในตะวันออกกลาง ซึ่งก็คือแนวทางสองรัฐให้ชาวปาเลสไตน์ก่อตั้งประเทศอยู่ร่วมกันกับอิสราเอล ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ยังไม่ปฏิเสธว่าอาจใช้กำลังทหารในการยึดครองกาซา ซึ่งจะเข้าข่ายการล้มล้างชาติพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ขับไล่ออกจากมาตุภูมิของพวกเขา ทรัมป์อ้างด้วยว่า ผู้นำหลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดของเขา แม้ว่าในความเป็นจริง การบังคับย้ายถิ่นเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชน ที่พันธมิตรตะวันตกย่อมต่อต้าน และการให้ไปตั้งถิ่นฐานในจอร์แดนและอียิปต์เป็นสิ่งที่ทั่วตะวันออกกลางคัดค้านมาโดยตลอด

ด้านผู้นำอิสราเอลกล่าวว่า ทรัมป์กำลังคิดนอกกรอบด้วยแนวคิดใหม่ๆและพร้อมทลายความคิดแบบดั้งเดิม แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า การบอกให้ชาวกาซาย้ายไปอยู่ที่อื่นเท่ากับเป็นการขับพวกเขาออกจากดินแดนของตนเอง เป็นสูตรสำเร็จของการสร้างความโกลาหลและความตึงเครียดในภูมิภาค เพราะชาวกาซาจะไม่มีวันยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะที่วุฒิสมาชิก คริสโตเฟอร์ เมอร์ฟี พรรคเดโมแครตโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ทรัมป์เสียสติไปแล้ว การที่สหรัฐฯ รุกรานกาซาจะนำมาซึ่งการฆ่าทำลายล้างชีวิตทหารอเมริกันจำนวนมากมาย และเกิดสงครามในตะวันออกกลางยาวนานหลายทศวรรษ เช่นเดียวกับ สส. เจคอบ ออคินคลอสส์ พรรคเดโมแครตที่ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ว่า เป็นข้อเสนอที่ไร้ความรับผิดชอบและไร้เหตุผล และอาจกระทบต่อการหยุดยิงระยะ 2 ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส จำเป็นต้องพิจารณาถึงแรงจูงใจของทรัมป์ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เขาเสนอนโยบาย มักมีเรื่องเส้นสายเพื่อประโยชน์ของตนเองและเครือญาติเข้ามาเกี่ยวข้อง

คำกล่าวของทรัมป์ ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันเกิดความสับสน เพราะขณะนี้ อิสราเอลกับฮามาสอยู่ระหว่างข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษ ส่วนชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นฐานจากสงครามกำลังเดินทางกลับไปยังบ้านเรือนของพวกเขา