วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
5 ก.พ. 2568 10:05 | 99 view
@pracha
จีนเอาคืน ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าพลังงาน, ยานพาหนะ และอุปกรณ์จากสหรัฐฯ นับเป็นการตอบโต้สงครามการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสองประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวว่า เริ่มมีความเคลื่อนไหวตอบโต้จากหลายชาติแล้ว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา, เม็กซิโก และคู่แข่งการค้ารายใหญ่อย่างจีน
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีต่อคู่ค้าชายแดนอย่างแคนาดาและเม็กซิโก ขณะที่สินค้าจากจีนถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 10% นอกเหนือจากภาษีที่เก็บอยู่แล้วในปัจจุบัน
ไม่กี่นาทีหลังจากมีผลบังคับใช้ รัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศจัดเก็บภาษี 15% ต่อการนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐฯ ขณะที่น้ำมันดิบ, เครื่องจักรกลการเกษตร, รถยนต์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และรถปิกอัพต้องเสียภาษี 10%
จีนเป็นตลาดหลักสำหรับการส่งออกพลังงานของสหรัฐฯ และการนำเข้าน้ำมัน, ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มีมูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ตามข้อมูลศุลกากรของรัฐบาลปักกิ่ง
แต่เมื่อเทียบกับการนำเข้าจากมหามิตรอย่างรัสเซีย จีนซื้อพลังงานมาด้วยมูลค่าสูงถึง 94,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่า มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อ "การขึ้นภาษีฝ่ายเดียว" ของรัฐบาลวอชิงตัน
จีนกล่าวว่าการขึ้นภาษีของสหรัฐฯนั้น "ละเมิดกฎขององค์การการค้าโลกอย่างร้ายแรง" อีกทั้งยังไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศตัวเอง และทำลายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าปกติระหว่างจีนและสหรัฐฯ
นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่าจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในกรณีการจัดเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม
นอกเหนือจากภาษีศุลกากรแล้ว จีนยังประกาศการสอบสวนบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และบริษัทแฟชั่น PVH Corp. ของสหรัฐซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Tommy Hilfiger และ Calvin Klein อีกด้วย รวมทั้งจัดให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชีวภาพอย่าง Illumina อยู่ในรายชื่อ "องค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ"
รัฐบาลปักกิ่งยังเปิดเผยมาตรการควบคุมการส่งออกโลหะหายากและสารเคมีใหม่ รวมถึงทังสเตน, เทลลูเรียม, บิสมัท และโมลิบดีนัม ซึ่งใช้ในเครื่องใช้อุตสาหกรรมหลายประเภท
นักเศรษฐศาสตร์จีนให้ความเห็นว่า มาตรการภาษีของรัฐบาลปักกิ่งไม่ได้มุ่งเอาเป็นเอาตาย เนื่องจากจีนมุ่งเป้าเฉพาะสินค้าของสหรัฐฯ บางส่วนเท่านั้น เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดที่มาจากจีน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเจรจาระยะยาวระหว่างทั้งสองประเทศ
ทรัมป์กล่าวว่าภาษีของเขาจะมุ่งเป้าไปที่การลงโทษประเทศต่างๆ ที่ไม่สามารถหยุดยั้งการไหลเข้าของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติดรวมถึงเฟนทานิล สู่ดินแดนสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เขาวางแผนที่จะโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเม็กซิโกและนายกรัฐมนตรีแคนาดาต่างก็บรรลุข้อตกลงในนาทีสุดท้ายกับทรัมป์ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดมาตรการที่ชายแดนในการรับมือกับการไหลบ่าของผู้อพยพและยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่การตกลงระงับการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเวลา 30 วัน
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า หลังการเจรจาอย่างเป็นมิตรกับประธานาธิบดีเม็กซิโก ภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกจะถูกระงับทันที และเม็กซิโกเองก็ได้ตกลงที่จะส่งทหาร 10,000 นายไปยังชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อควบคุมการอพยพ
ด้านความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาที่ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น แต่หลังจากต่อสายคุยกับจัสติน ทรูโด 2 ครั้ง ทรัมป์ระบุว่านายกรัฐมนตรีแคนาดารับประกันว่าพรมแดนทางเหนือจะปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างเฟนทานิล
ทรูโดกล่าวว่าแคนาดาจะส่งเจ้าหน้าที่แนวหน้าเกือบ 10,000 นายไปช่วยรักษาความปลอดภัยชายแดน, ขึ้นบัญชีกลุ่มค้ายาเป็นผู้ก่อการร้าย, แต่งตั้ง "ผู้มีอำนาจควบคุมเฟนทานิล" และปราบปรามการฟอกเงิน
ทั้งนี้ แคนาดา, จีน และเม็กซิโก เป็นสามคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดทัดเทียมสหรัฐอเมริกา และเป็นคู่แข่งการค้ารายใหญ่ในตลาดโลก
แคนาดาถูกทรัมป์กดดันให้ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และเรียกร้องให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ จนชาวแคนาดาแสดงออกถึงการต่อต้านและคว่ำบาตรธุรกิจสินค้าของอเมริกา ส่วนรัฐบาลออตตาวาเล็งตอบโต้ภาษีทรัมป์อย่างแข็งกร้าว
ขณะที่เม็กซิโกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักในการรักษาความปลอดภัยชายแดนกับสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะปราบปรามอย่างเข้มงวดต่อผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง.
ข่าว
5 ก.พ. 2568 13:01 58 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 12:47 29 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 12:01 38 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 11:12 42 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 11:07 95 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 10:33 39 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 10:13 89 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 10:05 100 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 09:50 127 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 09:46 63 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 09:45 80 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 09:28 96 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 08:03 149 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 08:01 100 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 07:58 116 views
ข่าว
5 ก.พ. 2568 07:17 120 views