ศาลอาญา ไม่ให้ประกันตัว“ทนายตั้ม-ภรรยา” คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน‘เจ๊อ้อย’ เผยอยู่ระหว่างการสอบคำให้การ-ไต่สวนตรวจคำร้อง ทนายตั้ม ร่ำไห้ ลูบหลังภรรยา ครอบครัว ลูกๆโผล่กอด ทนายเดชา โผล่เยี่ยม ยันไม่ได้เป็นทนายความให้ เพราะทนายตั้มแต่งทนายสู้คดีแล้ว เผยสงสารมาก ดูผอมลง มีกำลังใจดี ติดคุกมา 3 เดือน น่าจะทำใจได้แล้ว

วานนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่ทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอประกันตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เเละ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา จำเลย ร่วมกับพวกฉ้อโกง และ ฟอกเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย เศรษฐีนีชื่อดัง ภายหลังพนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายษิทรา กับพวกรวม 7 คนต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา  โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายษิทรา และนางปทิตตา จากเริอนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลางตามลำดับ มาไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยการไต่สวนคำร้องวันนี้ ศาลอาญา ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าฟังการไต่สวน

ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เจ้าของเพจ”ทนายคลายทุกข์”ได้เดินทางมาพบทนายตั้ม ในฐานะเพื่อนที่รู้จักกัน กล่าวว่าวันนี้ได้เจอทนายตั้มและ ภรรยาในฐานะเพื่อนฝูงก็ได้เข้าไปกอด พูดคุยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ส่วนการสู้คดี ทนายตั้มได้แต่งตั้งทนายความแล้ว ตนคงไม่ก้าวล่วง เพียงแค่เห็นลูก 3 คน เมีย แล้วก็สงสาร ให้กำลังใจเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายษิทรา เป็นไงบ้าง นายเดชา กล่าวว่า นายษิทราหรือ ทนายตั้มดูผอมลง ติดคุกมา 3 เดือนแล้ว แต่คิดว่าทั้งเมียและทนายตั้มน่าจะทำใจได้

เมื่อถามต่อว่า นายษิทราร้องไห้เสียใจหรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า ไม่ครับ เขากำลังใจดี ศาลกำลังไต่สวน ก็มีลุ้น หวังว่าจะได้รับการปล่อยตัว ส่วนเรื่องคดี ย้ำว่า เขามีทนายอยู่ อย่าไปลงนะว่าเป็นผม เดียวทัวร์จะลงอีกรับไม่ไหว ไม่มีที่จอดแล้ว พร้อมกับยิ้มและหัวเราะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลไต่สวนทนายตั้มและภรรยาคำร้อง ยื่นขอประกันตัว แล้วเสร็จ คาดว่าศาลจะมีคำสั่งว่าจะให้ทนายตั้มและภรรยาประกันตัวหรือไม่ ในช่วงบ่าย โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

มีรายงานว่านายษิทรา ยิ้มแย้มปกติ มีกำลังใจดี น้ำตาคลอ ตอนที่ได้กอดลูกๆ ส่วนนางปทิตตาร้องไห้เช็ดน้ำตาอยู่ตลอดเวลา โดยมีลูกชาย2คนและลูกสาว คอยเข้าไปกอดให้กำลังใจทั้งคู่ ก่อนรอเวลาศาลพิจารณาในช่วงบ่าย  จนกระทั่วเวลา 16.10น.ศาลเบิกตัว นายษิทราและนางปทิตตา มานั่งรอฟังผลพิจารณาคดีโดยทั้งคู่นั่งข้างกัน มีลูกๆทั้ง 3 คนและพี่สาวของนางปทิตตา รวมถึงคนในครอบครัวนั่งฟังด้วย ศาลพิจารณายกคำร้อง ไม่ให้ประกันตัวทั้ง 2 คน เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบคำให้การและไต่สวนตรวจคำร้อง  หลังจากทั้งคู่รับฟังแล้ว ปรากฏว่านายษิทรา มีสีหน้าถอดสี ร้องไห้ แตกต่างกับเมื่อเช้า ก่อน