กรุงเทพฯ เผชิญค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่อง คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนควรสวมหน้ากากป้องกันและจำกัดกิจกรรมกลางแจ้ง

 วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568) เวลา 07:00 น. ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 60.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จากข้อมูลพบว่า เขตหนองจอกมีปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 สูงที่สุดในกรุงเทพฯ วัดได้ 73.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยเขตลาดกระบัง 73.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเขตบึงกุ่ม 72.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

12 อันดับเขตที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดในกรุงเทพมหานคร
1.เขตหนองจอก (73.9 มคก./ลบ.ม.)
2.ตลาดกระบัง (73.5 มคก./ลบ.ม.)
3.ตบึงกุ่ม (72.6 มคก./ลบ.ม.)
4.ตมีนบุรี (71.5 มคก./ลบ.ม.)
5.ตทวีวัฒนา (71.1 มคก./ลบ.ม.)
6.ตหนองแขม (70.9 มคก./ลบ.ม.)
7.ตคลองสามวา (70.9 มคก./ลบ.ม.)
8.ตคันนายาว (70.4 มคก./ลบ.ม.)
9.ตบางกอกน้อย (68.1 มคก./ลบ.ม.)
10.บางขุนเทียน (67.6 มคก./ลบ.ม.)
11.หนองจอก เขตหนองจอก (67.4 มคก./ลบ.ม.)
12.ราษฎร์บูรณะ (67 มคก./ลบ.ม.)

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในแต่ละพื้นที่ของกรุงเทพฯ
- กรุงเทพเหนือ: 55.3 - 64.2 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
- กรุงเทพตะวันออก: 53.4 - 73.9 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
- กรุงเทพกลาง: 53.9 - 64.6 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
- กรุงเทพใต้: 55.1 - 66.7 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
- กรุงธนเหนือ: 58.9 - 71.1 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
- กรุงธนใต้: 54.2 - 70.9 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครจึงขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 ทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรืออยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องใช้แรงกายหนัก หรือลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมลง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา ควรรีบปรึกษาแพทย์  กลุ่มเสี่ยง: (ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด) ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหนาแน่น  งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ อาจมีแนวโน้มลดลงในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด