เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยก่อนออกเดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางไปด้วย เพื่อเยี่ยมตัวประกันทั้ง 5 คน ที่ได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.)

นายมาริษ เปิดเผยว่า ตั้งใจไปต้อนรับและเยี่ยม และเตรียมการรับทุกคนกลับประเทศไทย ซึ่งต้องไปฟังเงื่อนไขในการที่จะเดินทางกลับ เบื้องต้นทราบว่าอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีปัญหาทางด้านสุขภาพมากมายนัก แต่แน่นอนว่าถูกคุมตัวอยู่เป็นปี ทางด้านสุขภาพจิตคงได้รับความกระทบกระเทือนพอสมควร แต่เท่าที่ทราบทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ตนก็จะไปดูด้วยตา ส่วนเรื่องการเตรียมการก็คงต้องฟังทางด้านแพทย์ทหารของอิสราเอล ซึ่งขณะนี้มีคณะแพทย์จากทหารไทย ทำงานร่วมกับทหารของอิสราเอล ในการพิจารณาร่วมกันในเบื้องต้น คาดว่าคงจะใช้เวลาประมาณ 8 ถึง 10 วัน เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวประกันทั้ง 5 คน ว่าอยู่ในสภาพที่จะเดินทางได้หรือไม่

"วันพรุ่งนี้ผมคงไปเจอก่อนจึงจะตอบได้ชัดเจนว่าจะกลับได้เมื่อไหร่ เราตั้งใจจะให้เขาเดินทางกลับได้เมื่อไหร่ ซึ่งอยากให้เดินทางกลับโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งอื่นใดครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ผมทราบว่าวันนี้ทุกคนได้พูดคุยกับครอบครัวแล้ว จะช่วยเรื่องสุขภาพจิต และทำให้เขาพร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศไทยได้เร็วที่สุด"

นายมาริษ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีทีมทั้งกรมการกงสุล และที่เดินทางไปตั้งแต่เมื่อวาน และทีมของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่มีนายแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปด้วย เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับทีมแพทย์ทหารของอิสราเอล คาดว่าได้รับความร่วมมือในการช่วยการพูดคุย และวางแผนว่าจะให้ทั้ง 5 คน เดินทางกลับได้เมื่อไหร่ ซึ่งในชั้นนี้อยากให้เขาได้กลับมาเจอครอบครัวโดยเร็ว

"เมื่อวานหลังรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลโทรมายืนยันกับผม คนที่ดีใจที่สุดคือนายกรัฐมนตรี ผมให้คุยสายกับทางท่านทูต ซึ่งได้ขอบคุณทางอิสราเอลที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ซึ่งเราได้ทำงานด้วยกันมาเป็นเวลาเกือบเดือน ต้องขอเรียนว่าถูกนำเสียงที่ได้ยินมีความดีใจที่เรามีมิตรประเทศที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และเมื่อวานนี้ต้องขอขอบคุณทีมของผู้บัญชาการทหารสูงสุด รายงานให้ทราบเป็นระยะตลอดเวลาของการที่ตัวประกันได้ปล่อยตัว กระทั่งอยู่ในมือของ ICRC กำลังเดินทางไปที่ชายแดน ทุกคนที่ได้ยินก็จะดีใจ"

นายมาริษ ได้กล่าวขอบคุณมิตรประเทศ ทั้งอิสราเอล กาตาร์ อียิปต์ ตุรกี อิหร่าน ที่ได้ช่วยเหลือ และจะร่วมกันติดตามตัวประกันอีก 1 คน ให้ได้กลับบ้าน ส่วนผู้ที่เสียชีวิตก็จะติดตามนำร่างกลับประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมพร้อมที่จะให้ตัวแทนญาติ 1 คน ได้เดินทางไปรับคนไทยด้วยตัวเอง ซึ่งทางอิสราเอลยินดีอำนวยความสะดวก ก็หวังว่าพวกเขาจะได้กลับประเทศไทยมาพบครอบครัวโดยเร็วที่สุด