×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568

?>

อสส.สั่งฟ้องทนายตั้มกับเมียเเละพวก หลอก“เจ๊อ้อย”เรียกค่าเสียหายกว่า100 ลบ.

 30 ม.ค. 2568 16:06 | 154 view

 @pracha

Facebook X Share

อสส.สั่งฟ้องทนายตั้มกับเมียเเละพวกร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน หลอก“เจ๊อ้อย” ตามความเห็นพนักงานสอบสวน-อัยการร่วมสอบทุกข้อหาเเล้ว เรียกค่าเสียหาย กว่า100 ล้านอัยการคดีพิเศษนำตัว 2 พนักงานขายเบนซ์ส่งศาลลุ้นประกัน

เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่งดังนี้


สำนวนคดีที่ 1 คดีระหว่างนางสาวจตุพร อุบลเลิศ ที่ 1, พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ ที่ 2 ผู้กล่าวหา กับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1, นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐาน ฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน

พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสองและมาตรา 60

สั่งฟ้อง นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3(18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60

สำหรับสำนวนคดีที่ 2 คดีระหว่าง นางสาวจตุพร อุบลเลิศ กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา  เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 2, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ ผู้ต้องหาที่ 3, นางสาวสารินี นุชนารถ ผู้ต้องหาที่ 4, นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 5, นางสาวแก้วสวรรค์ สุขผล  ผู้ต้องหาที่ 6 และนางสาวมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียแก่ผู้อื่น, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น,

ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน

สำนวนคดีนี้เป็นความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้

1. สั่งฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอพพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง,

ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ),

สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1), พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,

2. สั่งฟ้อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 2 และ นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60

3. สั่งฟ้อง นายนุวัฒน์ ยงยุทธ ผู้ต้องหาที่ 3 และนางสาวสารินี นุชนารถ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด,

ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ),

สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,

4. สั่งฟ้อง นางสาวแก้วสวรรค์ สุขผล ผู้ต้องหาที่ 6 และนางสาวมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 7 (ทั้งคู่เป็นพนักงานขายรถเบนซ์) ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265

5. ขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอพพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในวันนี้ผู้ต้องหาที่ 6, 7 พร้อมทนายเดินทางมาฟังคำสั่งทางพนักงานอัยการคดีพิเศษ นำตัวไปฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาเเล้วในส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ในอำนาจคุมตัวของศาลทั้งในส่วนที่ได้ประกันเเละไม่ได้ประกัน เมื่อทางศาลอาญาได้รับคำฟ้องก็จะมีหมายเรียกหรือเบิกตัวจำเลยมาอ่านคำฟ้แงอัยการโจทก์ให้ทราบเเละสอบคำให้การต่อไป

สำหรับคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งกฎหมายให้อำนาจอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบหรือมีอำนาจตั้งพนักงานสอบสวน โดยมีการตั้งพนักงานสอบสวนจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หัวหน้าพนักงานสอบสวน เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เเละอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร จึงให้อัยการสำนักงานการสอบสวนเข้าร่วมสอบสวนกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ทางร.ต.อ.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน จึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการร่วมทำการสอบสอบกับพนักงานสอบสวนโดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกันทำสำนวนจนอัยการสูงสุด(คดีนอกราชฯ)เเละอัยการคดีพิเศษสั่งฟ้องในวันนี้

ต่อมาในช่วงบ่ายพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ1 ได้นำสำนวนมายื่นฟ้อง นายษิทรา กับพวก รวม 7 คนเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก โดยศาลอาญารับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดี อทย.109/2568 และนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งเจ็ดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น.

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ทบ. ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชน แจกจ่ายเครื่องกันหนาวแก่ประชาชนและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว

30 ม.ค. 2568 17:01 150 views

ข่าว

ทบ. เผยผลคุมชายแดนตาก สกัดต่างชาติผิดกฎหมาย

30 ม.ค. 2568 16:56 145 views

ข่าว

อสส.สั่งฟ้องทนายตั้มกับเมียเเละพวก หลอก“เจ๊อ้อย”เรียกค่าเสียหายกว่า100 ลบ.

30 ม.ค. 2568 16:06 155 views

ข่าว

คาดโทษเจ้าหน้าที่ทุกจังหวัด หากปล่อย‘เผา’ไม่แก้ไขเชิงรุก เชิงป้องกันปราบปรามเอาผิดแน่

30 ม.ค. 2568 16:03 132 views

ข่าว

ตำรวจคุมตัว "ต้า" หัวหน้าแก๊งโอริโอ้ พร้อมสมุนสอบปากคำเพิ่ม

30 ม.ค. 2568 15:17 394 views

ข่าว

‘ภูมิธรรม’ไฟเขียวเจ้าหน้าที่ตอบโต้พ่อค้ายาฮึดสู้

30 ม.ค. 2568 14:21 163 views

ข่าว

นายกฯพร้อมทำงานร่วมจีน ปราบ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

30 ม.ค. 2568 14:18 171 views

ข่าว

นายกฯย้ำแก้ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติ สั่งผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน เปิดปฏิบัติการ “Seal Stop Safe”

30 ม.ค. 2568 14:13 287 views

ข่าว

ศาลอาญา พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "กำนันนก" คดีสั่งสังหาร "สารวัตรศิว"

30 ม.ค. 2568 11:49 330 views

ข่าว

‘ทักษิณ’ไม่หวั่นแม้‘ทิม-ธร-เท้ง’ลงพื้นที่ให้ "ประชาชน" หน้าดำคร่ำเครียด

30 ม.ค. 2568 11:43 226 views

ข่าว

"คนละกาลเวลา ลุ้น EP5 โลกคู่ขนาน "

30 ม.ค. 2568 11:16 106 views

ข่าว

“พิชัย” ถก “เจโทร-หอการค้าญี่ปุ่น” ย้ำทิศทางเศรษฐกิจไทยเป็นบวกต่อเนื่อง

30 ม.ค. 2568 11:12 219 views

ข่าว

“ทักษิณ” แวะไหว้พระธาตุ หริภุญชัย ก่อนลั่นฆ้อง 3 ครั้งถวายเป็นพุทธบูชา

30 ม.ค. 2568 11:07 215 views

ข่าว

จับพม่าลักลอบเข้าเมืองซุกซ่อนในรถบรรทุกข้าวโพด 26 คน

30 ม.ค. 2568 11:01 201 views

ข่าว

เฟดคงดอกเบี้ย 4.25-4.50% ย้ำเงินเฟ้อสูง 

30 ม.ค. 2568 09:53 237 views

ข่าว

ฮามาสปล่อย 8 ตัวประกันเพิ่ม มีคนไทย 5 คน

30 ม.ค. 2568 09:47 235 views