×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568

?>

นายกฯย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม

 24 ม.ค. 2568 09:22 | 808 view

 @pracha

Facebook X Share

นายกฯย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน ชี้ประชุมดาวอส ประเทศไทยได้อะไรมากกว่า

วานนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568) เวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ตรงกับเวลาประเทศไทยประมาณ 22:00 น.) ณ ห้อง Jakobshorn ศูนย์ประชุม Davos Congress Center เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำเสนอวิสัยทัศน์และนโยบายของประเทศไทยต่อผู้บริหารจากภาคเอกชน และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ในกิจกรรม Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand ในห้วงของการประชุม World Economic Forum ประจำปี ค.ศ. 2025 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาที่ประชุมสำคัญของโลกที่ดาวอสเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นเสมือนการประชุมสุดยอดของผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดของโลก และการร่วมกิจกรรมในวันนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เน้นย้ำให้ทราบถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่น ที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาค และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาค ประเทศไทย มีโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมระดับโลก และขอยืนยันว่า ในยุคแห่งปัญญาและนวัตกรรมนี้ โลกจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ เพื่อสร้างอนาคตที่เหมาะสมเพื่อทุกคน ซึ่งประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปสู่การใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมจุดแข็งของประเทศไทย 3 ประการ ดังนี้

ประการแรก ในด้านเกษตรกรรมและอาหารประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่มีทรัพยากรการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครัวโลก” โดยรัฐบาลกำลังเดินหน้าเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ ผ่านการใช้ AI หุ่นยนต์ และการเกษตรแบบแม่นยำ เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ลดของเสีย เพิ่มผลผลิตให้ได้สูงที่สุด และเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรรมไทยจะมีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลยังขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหาร เพื่อช่วยให้ร้านอาหารของไทยได้สร้างสรรค์เมนูที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังมีความยั่งยืนและคำนึงถึงสุขภาพ

ประการที่สอง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของไทยซึ่งเปรียบเสมือน Soft Power ที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและสร้างสีสันให้กับสังคม อาทิการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ของโลกแห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่มั่งคั่งและธรรมชาติที่งดงาม โดยประเทศไทยวางตำแหน่งตัวเองให้เป็น “จุดหมายปลายทางสำหรับการผ่อนคลายความเครียด” ซึ่งทุกคนทั่วโลกสามารถมาท่องเที่ยวเพื่อสร้างความทรงจำและเติมพลังให้ตนเอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ประเทศไทยยังมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก และมีส่วนสำคัญต่อ GDP และการจ้างงานของประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สาม อุตสาหกรรมขั้นสูงที่มีความยั่งยืน โดยประเทศไทยให้ความสำคัญกับวาระโลกสีเขียว ผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงการขับเคลื่อนการลงทุนสีเขียวและการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ พร้อมทั้งลงทุนในอุตสาหกรรมขั้นสูงที่จะกำหนดอนาคตของประเทศไทย เช่น การสร้างระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม และการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลผ่าน data center รวมถึงยังได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเป็นอย่างน้อย 50% ภายในปี 2040 โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล

โอกาสนี้ นายกัฐมนตรียังกล่าวถึงการส่งเสริมปัจจัย 3 ประการ เพิ่มศักยภาพจุดแข็งของไทยให้ได้สูงสุด ดังนี้

ประการแรก การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัล พัฒนาฟินเทค และเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันในระดับโลก รวมทั้งดึงดูดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น บริการคลาวด์ ศูนย์ข้อมูล และเซมิคอนดักเตอร์ 2) พัฒนาประชาชน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผ่านโครงการเสริมทักษะและยกระดับทักษะ

ประการที่สอง การส่งเสริมการค้าและความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลมุ่งหวังที่จะบรรลุมาตรฐานสากลในหลาย ๆ ด้าน ควบคู่กับการคงไว้ของ “การทูตแบบสยาม” อันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ผ่านการรักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ โดยไทยได้สมัครเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านต่าง ๆของไทย พร้อมทั้งเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงและเดินหน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นในระบบพหุภาคีที่มีพื้นฐานจากกฎเกณฑ์ และการเสริมสร้างสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง ครอบคลุม และคาดการณ์ได้ รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการจูงใจ ปรับปรุงกฎระเบียบ และบรรลุความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศ/ดินแดนต่าง ๆ รวมถึงความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ที่ได้ลงนามไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเป็นฉบับแรกที่ประเทศไทยลงนามกับประเทศในยุโรป และเป็นฉบับแรกที่ครอบคลุมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม EFTA ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้บริโภค 650 ล้านคนในอาเซียนและ 2.3 พันล้านคนใน RCEP ปีนี้ไทยยังตั้งเป้าที่จะเร่งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับพันธมิตรอื่น ๆ อีกหลายประเทศ/ดินแดนด้วย รวมทั้งสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน รวมถึงมุ่งหวังที่จะเติบโตและเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และไทยจะยังคงเป็นสะพานเชื่อมเพื่อลดความแตกต่างและเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ ต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทุกคนที่มาร่วมฟังครั้งนี้จะมีความเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านคุณค่า จุดแข็ง และวิสัยทัศน์ของไทยที่จะก้าวไปข้างหน้าในฐานะประเทศที่พร้อมจะสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมตรียังเน้นย้ำต่อเวทีการหารือครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่น และมีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” และขอให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกแห่งโอกาส สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคน

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

พรรคประชาชนไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ เตรียมพร้อมมุ่งสู่เลือกตั้งใหญ่

8 ก.ค. 2568 18:40 176 views

ข่าว

กองทัพเรือไทย-สหรัฐฯ เปิดฉากการฝึกผสม CARAT 2025 ยกระดับความมั่นคงทางทะเลในอ่าวไทย

8 ก.ค. 2568 16:28 111 views

ข่าว

พรรคพลังประชารัฐ ชี้ รัฐบาล ปล่อยกัมพูชาปั่นเวทีโลก สร้างภาพไทยละเมิดอธิปไตย ย้ำรัฐบาลไทยต้องชี้แจงตอบโต้พร้อมรายละเอียดทุกประเด็นทันที

8 ก.ค. 2568 16:19 171 views

ข่าว

แทมิน SHINee แถลงขอโทษ หลังถูกวิจารณ์หนัก กรณีพูดถึงแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น

8 ก.ค. 2568 15:50 145 views

ข่าว

เกาหลีจัดอันดับวงไอดอลรุกกี้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี เดือน ก.ค.

8 ก.ค. 2568 15:32 135 views

ข่าว

'ธาริษา' อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ เตือนผู้ว่าฯใหม่ต้องอิสระจากการเมือง ห่วงเลือกคนใกล้ชิดรัฐบาล

8 ก.ค. 2568 15:22 131 views

ข่าว

ศาลรัฐธรรมนูญชี้! หญิงหย่าสามีต้องกลับใช้นามสกุลเดิม ไม่ขัด รธน. ไม่จำกัดเสรีภาพ ไม่เลือกปฏิบัติ

8 ก.ค. 2568 15:08 146 views

ข่าว

คบต. ไฟเขียว! ผ่อนผันแรงงานกัมพูชาอยู่ต่อ 6 เดือน

8 ก.ค. 2568 14:53 164 views

ข่าว

ร้านสังฆภัณฑ์ปรับกลยุทธ์สู้เศรษฐกิจ! ตรึงราคาสินค้าเท่าปีที่แล้ว จัดเทียนพรรษาขนาดเล็ก-หลอดไฟ LED ทางเลือกทำบุญ

8 ก.ค. 2568 14:44 139 views

ข่าว

หายนะในรอบ100ปี 'เท็กซัส'อ่วมน้ำท่วมครั้งใหญ่ ยอดดับทะลุ100-สูญหาย41ราย

8 ก.ค. 2568 14:42 121 views

ข่าว

คืนชีพ "อควาเรียมฯหอยสังข์ สงขลา" สอศ.เตรียมชง ’ให้‘นฤมล’พิจารณาให้ "อบจ."มาดูแล

8 ก.ค. 2568 14:28 160 views

ข่าว

ทรัมป์หารืออิสราเอล-ฮามาสเร่งเจรจาหยุดยิง

8 ก.ค. 2568 14:27 131 views

ข่าว

“ลิณธิภรณ์” ขอโฟกัสงานฝ่ายบริหารหวังเห็นผลงานช่วง 3 เดือนแรก

8 ก.ค. 2568 14:18 170 views

ข่าว

‘จุลพันธ์’ปัดถอน‘ร่างกาสิโน’กลัวถูกคว่ำในสภาฯ ตัดพ้อประเทศเสียโอกาส

8 ก.ค. 2568 14:12 147 views

ข่าว

รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา เผยโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" เตรียมเปิดลงทะเบียนอีกครั้งใน 1-2 วันนี้ ย้ำไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์

8 ก.ค. 2568 13:26 183 views

ข่าว

‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ดีเดย์ราคาเดียว 1 ตุลาคม นี้

8 ก.ค. 2568 13:22 158 views