ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศให้วันที่ 9 มกราคมเป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศ เพื่อแสดงความเคารพต่ออดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ที่ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 100 ปี โดยหน่วยงานรัฐบาลจะปิดทำการและมีพิธีศพแบบรัฐพิธีที่โบสถ์ National Cathedral ในกรุงวอชิงตัน

ในการแถลงการณ์จากทำเนียบขาว ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์เป็นบุคคลที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญและความเมตตา เขาอุทิศตนทำงานเพื่อประชาชนสหรัฐฯ ตลอดชีวิต และสร้างผลงานที่มีอิทธิพลต่อประเทศและประชาคมโลกอย่างมหาศาล เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศและโลก ด้วยความเชื่อมั่นในมนุษยธรรมและความเท่าเทียม 

วันที่ 9 มกราคมจะเป็นวันหยุดของหน่วยงานรัฐบาลกลาง ธงชาติจะถูกลดลงครึ่งเสาทั่วประเทศเป็นเวลา 30 วัน เพื่อแสดงความเคารพต่อคาร์เตอร์ การจัดพิธีศพแบบรัฐพิธีจะมีขึ้นที่โบสถ์ National Cathedral ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีศพของอดีตประธานาธิบดีคนก่อน เช่น โรนัลด์ เรแกน, เจอรัลด์ ฟอร์ด และจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช

ขบวนรถยนต์บรรทุกโลงศพของคาร์เตอร์จะเดินทางจากบ้านเกิดในรัฐจอร์เจีย โดยขบวนจะผ่านฟาร์มครอบครัวคาร์เตอร์ในเมืองเพลนส์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเติบโตและใช้ชีวิตก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง จากนั้นขบวนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารรัฐสภารัฐจอร์เจียในแอตแลนตา ที่ซึ่งประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐสามารถเข้าร่วมพิธีเคารพศพ  ขบวนรถจะได้รับการต้อนรับจากผู้ว่าการรัฐจอร์เจียและสมาชิกรัฐสภา ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง Carter Center ซึ่งเป็นศูนย์ที่เขาก่อตั้งขึ้นหลังจากพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี ศพของคาร์เตอร์จะตั้งอยู่ที่ศูนย์จนถึงวันที่ 7 มกราคม เพื่อให้ประชาชนร่วมไว้อาลัย

พิธีศพที่ National Cathedral จะมีประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้กล่าวสดุดีตามคำร้องขอของคาร์เตอร์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้แก่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช, บิล คลินตัน, บารัก โอบามา และโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะเข้าร่วมพิธีด้วย

หลังจากพิธีศพในกรุงวอชิงตัน โลงศพของคาร์เตอร์จะถูกนำกลับมายังรัฐจอร์เจียในช่วงเย็น และจะมีพิธีทางศาสนาที่โบสถ์มารานาธา แบพติสต์ โบสถ์ประจำครอบครัวในเมืองเพลนส์ ก่อนที่จะฝังเคียงข้างอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง โรซาลินน์ คาร์เตอร์ ผู้ล่วงลับเมื่อปีที่แล้ว

Cr. VOA