DSI สั่งฟ้อง 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป คดีฉ้อโกงพันล้าน ทนายบอส โวยตั้งธง

DSI ปิดฉากสอบสวนคดีดิไอคอนกรุ๊ป มีมติเอกฉันท์สั่งฟ้องผู้บริหาร 18 คน และบริษัท 1 แห่ง ใน 4 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือ แชร์ลูกโซ่, ความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ส.2545 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ  ความเสียหายรวมกว่า 1,644 ล้านบาท มีผู้เสียหายกว่า 7,800 คน

พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI แถลงข่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนได้พิจารณาพยานหลักฐานกว่า 3 แสนแผ่น รวมถึงคำให้การของพยาน 50 ปาก และคำแก้ต่างของผู้ต้องหาทุกคนอย่างละเอียดแล้ว พบว่าพยานหลักฐานชี้ชัดว่าดิไอคอนกรุ๊ปดำเนินธุรกิจในลักษณะมีพฤติการณ์แผนธุรกิจ มุ่งเน้นหาสมาชิกใหม่มากกว่าขายสินค้า  คำแก้ต่างของผู้ต้องหาจึงฟังไม่ขึ้น

สำหรับพยานฝั่งผู้ต้องหาที่นำมาให้ DSI สอบปากคำนั้น มีประมาณ 50 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในเครือข่าย DSI ระบุว่าได้พิจารณาคำให้การทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้

DSI จะส่งสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และจะแยกสำนวนอีกส่วนหนึ่งต่างหากสำหรับผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นมี 10 ราย โดยอัยการจะเข้ามาร่วมสอบสวนในสำนวนนี้ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมผู้เสียหายทุกคน

ด้านนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” หนึ่งในผู้ต้องหา แสดงความไม่พอใจและมองว่าDSI ตั้งธงสั่งฟ้องลูกความของตน โดยไม่ให้โอกาสตรวจสอบหลักฐานสำคัญในการต่อสู้คดี และยืนยันว่าจะต่อสู้คดีและขอความเป็นธรรมในชั้นศาลและชั้นอัยการต่อไป

นอกจากคดีฉ้อโกง แล้ว DSI ยังอยู่ระหว่างสอบสวนคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช โดยพบเส้นทางการเงินจาก “บอสพอล” ไปยังหวานใจของนายสามารถ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับการโอนเงินไปยังมารดาของนายสามารถ DSI จึงเตรียมออกหมายเรียกหวานใจนายสามารถมาให้ปากคำ ส่วนกรณี “บอสปีเตอร์” โอนเงิน 5 แสนบาท ให้มารดานายสามารถนั้น DSI กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป.