ผบ.ระดับสูงของกองทัพรัสเซียถูกสังหารในกรุงมอสโก

คิริลลอฟเป็นผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธกัมมันตภาพรังสี ชีวภาพ และเคมี เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซียที่ถูกสังหารบนดินแดนรัสเซียนับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มขึ้นในปี 2022 คณะกรรมการสืบสวนได้เปิดการสอบสวนเรื่องการฆาตกรรม การโจมตี และการลักลอบขนอาวุธ นอกจากคิริลลอฟแล้วยังมีผู้ช่วยของเขาที่ถูกสังหารด้วย

เจ้าหน้าที่สืบสวนระบุว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในตอนเช้า ขณะที่คิริลลอฟและผู้ช่วยของเขากำลังออกจากอาคารในย่านที่พักอาศัยทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก แรงระเบิดจากสกูตเตอร์ที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าทำให้หน้าต่างหลายบานแตก เช่นเดียวกับทางเข้าอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว AFP รายงาน

ไม่นานหลังการระเบิด หน่วยข่าวกรองในกรุงเคียฟรายงานว่า คิริลลอฟถูกสังหารในระหว่างปฏิบัติการพิเศษของหน่วยสืบราชการลับยูเครน SBU “คิริลลอฟเป็นอาชญากรสงคราม และเป็นเป้าหมายการสังหารที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเขาสั่งให้ใช้อาวุธเคมีที่ไม่ได้รับอนุญาตกับกองทัพยูเครน” เป็นข้อความระบุในคำแถลง ตามรายงานข่าวกรองของยูเครน ตั้งแต่เริ่มสงคราม กองทัพรัสเซียใช้ “กระสุนเคมี” ไปแล้วมากกว่า 4,800 ครั้ง แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างแข็งขัน

ในเดือนตุลาคม คิริลลอฟถูกเนรเทศออกจากอังกฤษด้วยข้อหาใช้อาวุธเคมีต้องห้าม รัฐบาลอังกฤษและสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่าใช้สารเคมีคลอโรพิครินกับทหารยูเครน โฆษกของเคียร์ สตาร์เมอร์-นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยินดียินร้ายกับการเสียชีวิตของบุคคลที่ “โฆษณาชวนเชื่อเรื่องการรุกรานอย่างผิดกฎหมาย และนำความทุกข์ทรมานและความตายมาสู่ชาวยูเครน” รัฐบาลอังกฤษยังสัญญาด้วยว่า จะให้ความช่วยเหลือยูเครนในช่วงฤดูหนาวจำนวน 42 ล้านยูโร เพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ถูกทำลายจากการโจมตีของรัสเซียเป็นหลัก

มาเรีย ซาคาโรวา-โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวหาพันธมิตรของยูเครน ที่เมินเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหรือแสดงท่าทีสนับสนุน “ทุกคนที่ยินดียอมรับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายหรือจงใจปกปิดพวกเขา ล้วนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด” มิทรี เมดเวเดฟ-อดีตประธานาธิบดีของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อ “ทำลาย” ผู้นำทางการเมืองและการทหารของยูเครนที่สั่งการโจมตี

เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอังคารที่กรุงวอชิงตันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนการสังหารอิกอร์ คิริลลอฟ และไม่สนับสนุนแนวทางดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีได้เรียกร้องให้มี “สันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน” ในยูเครนภายในปี 2025 “เราต้องสร้างสันติภาพในลักษณะที่ปูตินไม่สามารถทำลายได้อีกต่อไป” เซเลนสกีกล่าวในการปราศรัยผ่านวิดีโอที่การประชุมสุดยอด 10 ประเทศในเมืองหลวงทาลลินน์ของเอสโตเนีย ในเวลาต่อมา เซเลนสกียังเรียกร้องให้พันธมิตรของยูเครนสส่งความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมไปยังประเทศของเขา “อย่างเร่งด่วน”

ที่การประชุมสุดยอดนาโต ในกรุงบรัสเซลส์สัปดาห์นี้ ประมุขแห่งรัฐและผู้นำรัฐบาลจะหารือกันเกี่ยวกับ “วิธีที่ยูเครนสามารถเสริมความเข้มแข็งอย่างเร่งด่วนทั้งในสนามรบ ทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์” เซเลนสกีกล่าว.