ถ้าไม่มารอบหน้าเจอหมายจับ! อัยการ‘เกาหลีใต้’ออกหมายเรียก‘ยูน’ครั้งที่2 ให้ปากคำคดีกฎอัยการศึก

17 ธ.ค. 2567 นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ รายงานข่าว S. Korea’s Yoon given until Saturday to appear for questioning: Report ระบุว่า อัยการเกาหลีใต้ ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้ ยูน ซุก ยอล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งถูกสมาชิกรัฐสภาลงมติถอดถอนไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 และต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ไปพบพนักงานอัยการเพื่อให้ปากคำ ในคดีที่เจ้าตัวประกาศกฎอัยการศึกแล้วเผชิญกับการต่อต้านจนต้องยกเลิกในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ยูน ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นกบฏ ต้องเผชิญกับคณะกรรมการสอบสวนร่วมซึ่งประกอบด้วยอัยการ ตำรวจ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ หากศาลตัดสินว่าผิดจริง ทั้งยูนและบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อาจถูกลงโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยหมายเรียกครั้งที่ 2 นี้ ออกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 กำหนดให้ยูนต้องเข้าให้ปากคำในวันที่ 21 ธ.ค. 2567 และหากยังไม่มาอีกก็อาจต้องถึงขั้นออกหมายจับ

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนจากคณะกรรมการร่วม ได้บุกค้นหน่วยงานความมั่นคงของยูนเพื่อค้นหาข้อมูลการโทรศัพท์ โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ หน่วยได้ขอให้ยูนที่ถูกพักงานเข้าให้ปากคำในวันที่ 18 ธ.ค. 2567 เวลา 10..0 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในข้อหากบฏและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ถูกปฏิเสธจากสำนักงานประธานาธิบดี  นอกจากนั้น สำนักงานประธานาธิบดี ยังออกแถลงการณ์ด้วยว่า ยังไม่มีการส่งหมายเรียก ไม่ทราบว่าใครคือผู้ที่ปฏิเสธที่จะรับหมายเรียก

ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ เริ่มกระบวนการไต่สวนคดีของยูน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 และมีเวลาพิจารณาคดีประมาณ 6 เดือน ก่อนจะมีคำวินิจฉัยว่ายูนต้องพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีตามการลงมติถอดถอนหรือไม่ โดยวันพิจารณานัดแรกคือวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ซึ่งยูนยังไม่จำเป็นต้องมาปรากฏตัวที่ศาลก็ได้ ทั้งนี้ ในขณะที่ยูนถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ฮัน ดั๊ก-ซู (Han Duck-soo) นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ จะทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีไปก่อน และหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยูนพ้นจากตำแหน่ง ก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 2 เดือน

อีกด้านหนึ่ง บรรยากาศการชุมนุมของประชาชนทั้งฝ่ายที่สนับสนุนยูนและฝ่ายที่เรียกร้องให้ยูนลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมวลชนทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมต่อไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย