9 ธ.ค. 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump aims to deport all immigrants in the US illegally ระบุว่า ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ "Meet the Press with Kristen Welker" ทางสถานี NBC News เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ตนตั้งเป้าเนรเทศผู้อพยพทั้งหมดในสหรัฐฯ ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายตลอดระยะเวลา 4 ปี ของการดำรงตำแหน่ง แต่ต้องการข้อตกลงเพื่อปกป้องผู้อพยพที่เรียกว่า "Dreamer"

นอกจากนั้น ตนยังวางแผนที่จะดำเนินการตามคำสั่งของฝ่ายบริหารในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง เพื่อพยายามยุติการให้สัญชาติโดยกำเนิด ซึ่งจะให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ ไม่ว่าสถานะการย้ายถิ่นฐานของพ่อแม่จะเป็นอย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ ทรัมป์ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งชนะเลือกตั้งได้หวนคืนสู่ทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ได้ให้คำมั่นว่า จะเนรเทศคนจำนวนมาก โดยคาดว่าจะประกาศให้การอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2568  และดึงทรัพยากรจากทั่วรัฐบาลกลางมาสนับสนุนการปราบปรามในวงกว้าง

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ประมาณการว่ามีผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายราว 11 ล้านคน ณ เดือน ม.ค. 2565 และปัจจุบันน่าจะสูงขึ้นอีก ซึ่งเมื่อพิธีกรถามทรัมป์ว่าแผนของเขาคือการเนรเทศทุกคนที่ไม่มีสถานะทางกฎหมายหรือไม่ ทรัมป์ก็ตอบด้วยการย้อนกลับว่า ผมคิดว่าคุณต้องทำ

‘มันเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ คุณรู้ไหมว่าคุณมีกฎ ระเบียบ กฎหมาย’ ทรัมป์ กล่าว

ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนต้องการข้อตกลงเพื่อปกป้องผู้อพยพ “Dreamer” ที่ถูกนำเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายเมื่อยังเป็นเด็ก ซึ่งพรรครีพับลิกันเปิดใจต่อแนวคิดนี้ อนึ่ง ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกช่วงปี 2560-2564 ทรัมป์พยายามยุติโครงการที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเนรเทศและการออกใบอนุญาตทำงานแก่ผู้อพยพ แต่ถูกศาลฎีกาตีตกไป

แผนการของทรัมป์ที่จะพยายามยุติสิทธิพลเมืองโดยกำเนิดอาจต้องเผชิญกับการท้าทายทางกฎหมาย สิทธิดังกล่าวมีที่มาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนจากคำพิพากษาของศาลฎีกาในปี 2441 อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้เปรยกับพิธีกรว่า อาจต้องถึงขั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นกระบวนการที่ยากลำบาก

‘บางทีเราอาจต้องกลับไปหาประชาชน’ ทรัมป์ ระบุ

อีกด้านหนึ่ง ทอม โฮแมน (Tom Homan) ผู้บัญชาการชายแดนคนใหม่ของทรัมป์ และสตีเฟน มิลเลอร์ (Stephen Miller) รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ต่างบอกกับรายการ "Sunday Morning Futures" ของสำนักข่าว Fox News ว่า รัฐสภาควรจัดสรรเงินเพิ่มจำนวนมากสำหรับการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง

สภาตรวจคนเข้าเมืองแห่งอเมริกา ซึ่งสนับสนุนการย้ายถิ่นฐาน ประเมินว่าการส่งตัวผู้อพยพทั้งหมดกลับสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายในช่วงเวลากว่า 10 ปี จะมีค่าใช้จ่าย 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 3 ล้านล้านบาท) ต่อปี ซึ่งโฮแมนก็ยอมรับว่า จำนวนเงินขั้นต่ำที่จำเป็นจะใกล้เคียงกับจำนวนดังกล่าว

"เราจะต้องใช้เงินมากที่สุดเท่าที่รัฐสภาจะจัดหาให้ได้" โฮแมน กล่าว