×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2568

?>

คาดGDPไทยวูบ1% นโยบายทรัมป์ทุบส่งออกร่วง

 21 พ.ย. 2567 10:56 | 1364 view

 @pracha

Facebook X Share

คาดGDPไทยวูบ1% นโยบายทรัมป์ทุบส่งออกร่วง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการประเมินว่าจากนโยบายของทรัมป์ “อเมริกันต้องมาก่อน” เรื่องหลักซึ่งประกอบไปด้วย 1.การกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดภาษีและกฎระเบียบเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจ ใช้นโยบายการค้าเชิงรุกเพื่อสร้างงานและขยายเศรษฐกิจ 2.นโยบายการค้าระหว่างประเทศ เน้นนโยบายกีดกันทางการค้า ด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม 10% จากประเทศที่เกินดุลและจากจีน 60% 3.นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายใน ผ่านภาษีนำเข้า ลดกฎระเบียบ ลดการพึ่งพาจีนในอุตสาหกรรมสำคัญ 4.นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนนโยบายพลังงานได้ทุกรูปแบบ ต่อต้านข้อตกลงปารีส และมองว่าการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเป็นภาระ 5.นโยบายแรงงานและสวัสดิการสังคม เน้นการสร้างงานผ่านการลดภาษีและกฎระเบียบ จำกัดการเข้าเมืองเพื่อปกป้องตำแหน่งงานให้คนอเมริกัน 6.นโยบายการเงิน มุ่งลดความเป็นอิสระของธนาคารกลาง และต้องการให้ประธานาธิบดีมีอำนาจกำหนดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ประเทศไทย มีดุลการค้ากับสหรัฐเกินดุลอยู่อันดับที่ 9 และจากข้อมูลย้อนหลังพบว่าไทยมีการเชื่อมโยงกับสหรัฐด้านการส่งออกสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2014 แม้จะลดลงบ้างในปี 2018 แต่จากนั้นก็สูงขึ้นมาตลอด ในขณะที่ไทยยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2% ซึ่งเป็นการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียง 61% เท่านั้น พึ่งพาตลาดโลก 39% ดังนั้น เมื่อโลกแย่ สหรัฐแย่ ไทยก็แย่ไปด้วย โดยสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐสูงที่สุดคือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 10,477 ล้านดอลลาร์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 9,502 ล้านดอลลาร์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง 4,529 ล้านดอลลาร์

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่าหากในปี 2568 ทรัมป์ดำเนินตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ผลกระทบทางตรงที่จะเกิดกับไทยคือ 1.ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงบางส่วน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายการค้าแบบปกป้องจากการเก็บภาษีนำเข้า 2.การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 10% มูลค่าการค้าของไทยจะลดลง 3,106 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลพวงไปด้วยคืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่มยานพาหนะโลหะสามัญและผลิตภัณฑ์จากโลหะ3.จะเห็นการลงทุนลดลงจากสหรัฐ หรืออาจมีการถอนการลงทุนออกไปบ้าง 4.GDP ของไทยมีแนวโน้มลดลงบางส่วนได้ เทียบกับช่วงก่อนเลือกตั้ง

ส่วนผลกระทบทางอ้อม เมื่อจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐได้ ชิ้นส่วนของไทยที่ส่งออกไปจีน เช่น ชิพเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าต่างๆ จะลดลง มูลค่าการค้ากับจีนจะหายไป 49,105 ล้านบาทแน่นอนว่าเมื่อจีนได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอีก 60% มูลค่าการส่งออกจึงสูญหายไปถึง 350,660 ล้านดอลลาร์ สิ่งที่น่ากังวลคือ สินค้ากลุ่มที่จีนส่งออกไม่ได้จะทะลักเข้ามาที่ไทยแทนอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงเป็นโอกาสตลาดส่งออกของไทยไปยังสหรัฐเป็นการทดแทนตลาดสินค้าจีน ทั้งเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง ของเล่น เกม และอุปกรณ์กีฬา สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เครื่องเรือนและของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

“หากดูจากผลกระทบแล้วจะเห็นว่า ผลทางตรงการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐจะลดลง108,714 ล้านบาท และทางอ้อมการส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานจีนและสหรัฐจะลดลง 49,105ล้านบาท การส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐและจีนรวมแล้วสูงถึง 160,472 ล้านบาท มีผลทำให้ GDP ไทยหายไป 1% ในปี 2568 บวกกับผลพวงของความเสี่ยงในเรื่องของสงครามระหว่างประเทศ รวมถึงปัจจัยจากประเทศคู่ค้าที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว หากปี 2568 หาก GDP โลกขยายตัว 2.7-3.2% ไทยจะส่งออกอยู่ที่ 2.8% มูลค่า 302,477 ล้านดอลลาร์ ตลาดสำคัญยังคงเป็น ยุโรป อินเดีย อเมริกา สินค้าเด่นคือเครื่องจักรกลผลไม้สด แช่แข็ง ยางและผลิตภัณฑ์ยาง แต่หากทรัมป์ขึ้นภาษี 10% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือ 2.24% และหากขึ้นภาษีกับประเทศที่เกินดุล 15% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือเพียง 0.72%”

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการคือการอัดมาตรการด้านท่องเที่ยวและการบริโภค และต้องหาแต้มต่อของไทยจากการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และไม่โดนกำแพงภาษีมากเกินไป เพื่อดึงการลงทุนเข้ามาแทนเวียดนาม ที่อาจถูกสหรัฐขึ้นภาษี 15-20% เพราะเกินดุลการค้ามากกว่าไทย

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ทบ.ผนึก ตร. สกัดอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ

23 ม.ค. 2568 19:34 118 views

ข่าว

ฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพฯ อยู่ในระดับสีแดง-ส้ม

23 ม.ค. 2568 16:31 146 views

ข่าว

นายกฯ สั่งการด่วนจากดาวอส แก้ฝุ่นพิษ!

23 ม.ค. 2568 16:29 148 views

ข่าว

สพฐ.สั่งโรงเรียนในพื้นที่สีแดง ปิดเรียนหนีฝุ่น 7 วัน

23 ม.ค. 2568 16:09 150 views

ข่าว

สอท. ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลางอื้อ

23 ม.ค. 2568 15:28 128 views

ข่าว

ไทยพร้อมร่วมมือเมียนมา ปราบอาชญากรรมทุกรูปแบบ

23 ม.ค. 2568 15:26 198 views

ข่าว

จับเว็บพนัน! พบเงินหมุนเวียน 500 ล้าน ใช้บริษัททิพย์ฟอกเงิน

23 ม.ค. 2568 15:17 150 views

ข่าว

หมุดถนนเรืองแสงไฮบริด ฝีมือคนไทย

23 ม.ค. 2568 14:52 39 views

ข่าว

เกาหลีเหนือ'สูญเสียทหาร จากการช่วย'รัสเซีย'รบกับ'ยูเครน'กว่า1,000นาย

23 ม.ค. 2568 14:51 145 views

ข่าว

วิกฤติอีกครั้ง! ไฟป่าลอสแอนเจลิสลุกลามจุดใหม่ อพยพ3หมื่นชีวิต

23 ม.ค. 2568 14:47 149 views

ข่าว

‘เอกนัฏ’แฉกลางสภาฯไอ้โม่งจ้องย้าย‘รัฐมนตรี’ ค่าตัว 200-300 ล้าน ลั่นไม่กลัว

23 ม.ค. 2568 13:22 206 views

ข่าว

จับผีน้อยเกาหลีใช้อุดรฯลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน 100 ลบ./เดือน

23 ม.ค. 2568 13:06 180 views

ข่าว

ด่วนที่สุด! คุก‘สมรักษ์’ 2 ปี 13 เดือน 20 วัน คดีพยายามข่มขืนสาววัย 17 ปี

23 ม.ค. 2568 12:44 179 views

ข่าว

NewJeans หาชื่อวงใหม่!

23 ม.ค. 2568 11:37 143 views

ข่าว

ตำรวจคู่แรกมาแล้ว ควงคู่จดทะเบียน เตรียมเข้าประตูวิวาห์

23 ม.ค. 2568 11:26 215 views

ข่าว

บรรยากาศจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมทั่วประเทศสุดคึกคัก

23 ม.ค. 2568 11:15 241 views