วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567
21 พ.ย. 2567 10:56 | 65 view
@pracha
คาดGDPไทยวูบ1% นโยบายทรัมป์ทุบส่งออกร่วง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการประเมินว่าจากนโยบายของทรัมป์ “อเมริกันต้องมาก่อน” เรื่องหลักซึ่งประกอบไปด้วย 1.การกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดภาษีและกฎระเบียบเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจ ใช้นโยบายการค้าเชิงรุกเพื่อสร้างงานและขยายเศรษฐกิจ 2.นโยบายการค้าระหว่างประเทศ เน้นนโยบายกีดกันทางการค้า ด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม 10% จากประเทศที่เกินดุลและจากจีน 60% 3.นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายใน ผ่านภาษีนำเข้า ลดกฎระเบียบ ลดการพึ่งพาจีนในอุตสาหกรรมสำคัญ 4.นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนนโยบายพลังงานได้ทุกรูปแบบ ต่อต้านข้อตกลงปารีส และมองว่าการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเป็นภาระ 5.นโยบายแรงงานและสวัสดิการสังคม เน้นการสร้างงานผ่านการลดภาษีและกฎระเบียบ จำกัดการเข้าเมืองเพื่อปกป้องตำแหน่งงานให้คนอเมริกัน 6.นโยบายการเงิน มุ่งลดความเป็นอิสระของธนาคารกลาง และต้องการให้ประธานาธิบดีมีอำนาจกำหนดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ประเทศไทย มีดุลการค้ากับสหรัฐเกินดุลอยู่อันดับที่ 9 และจากข้อมูลย้อนหลังพบว่าไทยมีการเชื่อมโยงกับสหรัฐด้านการส่งออกสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2014 แม้จะลดลงบ้างในปี 2018 แต่จากนั้นก็สูงขึ้นมาตลอด ในขณะที่ไทยยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2% ซึ่งเป็นการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียง 61% เท่านั้น พึ่งพาตลาดโลก 39% ดังนั้น เมื่อโลกแย่ สหรัฐแย่ ไทยก็แย่ไปด้วย โดยสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐสูงที่สุดคือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 10,477 ล้านดอลลาร์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 9,502 ล้านดอลลาร์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง 4,529 ล้านดอลลาร์
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่าหากในปี 2568 ทรัมป์ดำเนินตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ผลกระทบทางตรงที่จะเกิดกับไทยคือ 1.ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงบางส่วน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายการค้าแบบปกป้องจากการเก็บภาษีนำเข้า 2.การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 10% มูลค่าการค้าของไทยจะลดลง 3,106 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลพวงไปด้วยคืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่มยานพาหนะโลหะสามัญและผลิตภัณฑ์จากโลหะ3.จะเห็นการลงทุนลดลงจากสหรัฐ หรืออาจมีการถอนการลงทุนออกไปบ้าง 4.GDP ของไทยมีแนวโน้มลดลงบางส่วนได้ เทียบกับช่วงก่อนเลือกตั้ง
ส่วนผลกระทบทางอ้อม เมื่อจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐได้ ชิ้นส่วนของไทยที่ส่งออกไปจีน เช่น ชิพเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าต่างๆ จะลดลง มูลค่าการค้ากับจีนจะหายไป 49,105 ล้านบาทแน่นอนว่าเมื่อจีนได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอีก 60% มูลค่าการส่งออกจึงสูญหายไปถึง 350,660 ล้านดอลลาร์ สิ่งที่น่ากังวลคือ สินค้ากลุ่มที่จีนส่งออกไม่ได้จะทะลักเข้ามาที่ไทยแทนอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงเป็นโอกาสตลาดส่งออกของไทยไปยังสหรัฐเป็นการทดแทนตลาดสินค้าจีน ทั้งเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง ของเล่น เกม และอุปกรณ์กีฬา สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เครื่องเรือนและของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์
“หากดูจากผลกระทบแล้วจะเห็นว่า ผลทางตรงการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐจะลดลง108,714 ล้านบาท และทางอ้อมการส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานจีนและสหรัฐจะลดลง 49,105ล้านบาท การส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐและจีนรวมแล้วสูงถึง 160,472 ล้านบาท มีผลทำให้ GDP ไทยหายไป 1% ในปี 2568 บวกกับผลพวงของความเสี่ยงในเรื่องของสงครามระหว่างประเทศ รวมถึงปัจจัยจากประเทศคู่ค้าที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว หากปี 2568 หาก GDP โลกขยายตัว 2.7-3.2% ไทยจะส่งออกอยู่ที่ 2.8% มูลค่า 302,477 ล้านดอลลาร์ ตลาดสำคัญยังคงเป็น ยุโรป อินเดีย อเมริกา สินค้าเด่นคือเครื่องจักรกลผลไม้สด แช่แข็ง ยางและผลิตภัณฑ์ยาง แต่หากทรัมป์ขึ้นภาษี 10% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือ 2.24% และหากขึ้นภาษีกับประเทศที่เกินดุล 15% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือเพียง 0.72%”
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการคือการอัดมาตรการด้านท่องเที่ยวและการบริโภค และต้องหาแต้มต่อของไทยจากการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และไม่โดนกำแพงภาษีมากเกินไป เพื่อดึงการลงทุนเข้ามาแทนเวียดนาม ที่อาจถูกสหรัฐขึ้นภาษี 15-20% เพราะเกินดุลการค้ามากกว่าไทย
ข่าว
21 พ.ย. 2567 13:26 29 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 13:24 25 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 12:40 44 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 12:17 31 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 11:57 34 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 11:54 34 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 11:45 59 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 10:56 66 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 10:54 61 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 10:33 62 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 10:26 69 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 09:57 60 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 09:19 80 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 09:15 100 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 09:13 91 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 09:11 75 views