วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2567
14 พ.ย. 2567 10:14 | 938 view
@pracha
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้อนรับโดนัลด์ ทรัมป์ กลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ โดยแสดงความสุภาพต่อคู่ปรับที่ไม่เคยแม้แต่จะแสดงความยินดีกับเขาเลยเมื่อ 4 ปีก่อน
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป เดินทางสู่ทำเนียบขาวตามคำเชิญของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นรูปแบบของธรรมเนียมปฏิบัติในกระบวนการถ่ายโอนอำนาจของผู้นำประเทศ
บุคคลทั้งสองพบปะกันในห้องทำงานรูปไข่ และได้จับมือกันหน้ากองไฟที่กำลังลุกโชน พร้อมคำมั่นสัญญาที่ว่าการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการที่ทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2563
ไบเดนซึ่งถอนตัวจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมและส่งภารกิจต่อให้กมลา แฮร์ริส ลงแข่งขันแทนจนพ่ายแพ้ต่อทรัมป์เมื่อสัปดาห์ก่อน กล่าวว่า เขาตั้งตารอที่จะให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น และให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าทรัมป์จะได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างที่ควรเป็น
ขณะที่ทรัมป์ซึ่งยุยงให้ฝูงชนโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐในปี 2564 และดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งอย่างก้าวร้าวจนนำไปสู่การแตกแยก พยายามใช้โทนเสียงที่สุภาพในการกลับมาเยือนทำเนียบขาวครั้งนี้
"การเมืองเป็นเรื่องยาก และในหลายๆ กรณี มันไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย แต่ปัจจุบันมันเป็นโลกที่สวยงามอย่างน่าชื่นชม ซึ่งผมซาบซึ้งใจมาก" ทรัมป์กล่าว
เขากล่าวเสริมว่า การถ่ายโอนอำนาจจะราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าทีมงานเปลี่ยนผ่านของเขายังไม่ได้ลงนามในเอกสารทางกฎหมายสำคัญบางฉบับก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2568 ก็ตาม
ในการเยือนครั้งนี้ เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย โดยเธอเองก็ไม่ค่อยปรากฏตัวในช่วงหาเสียงและแทบจะไม่ย่างกรายเข้าใกล้ทำเนียบขาวเลยในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์
จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งได้เข้าร่วมต้อนรับทรัมป์และมอบจดหมายแสดงความยินดีที่เขียนด้วยลายมือให้กับทรัมป์เพื่อฝากไปยังเมลาเนีย
หลังจากจับมือกันแล้วและเริ่มพูดคุย มีเพียงเจฟฟ์ เซียนต์ส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนปัจจุบันของไบเดน และซูซี ไวลส์ ว่าที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของทรัมป์ ที่อยู่ร่วมในการสนทนา
คาดว่าไบเดนจะผลักดันระหว่างการพูดคุยดังกล่าวให้ทรัมป์ยังคงสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย ซึ่งพรรครีพับลิกันตั้งคำถามถึงความจำเป็นมาตลอด
ช่วงเวลาวาระที่สองของทรัมป์ยังเติมเต็มด้วยอำนาจการควบคุมพรรคเกือบทั้งหมด และรีพับลิกันเองก็ยึดครองทั้งสภาสูง (วุฒิสภา) และสภาล่าง (สภาผู้แทนราษฏร) ไว้ได้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่พรรคเดโมแครตอยู่ในช่วงสับสนวุ่นวายกับการพ่ายแพ้ในทุกสนาม
ขณะนี้ รัฐบาลทั่วโลกกำลังจับตาทีมบริหารรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ว่าจะเป็นไปในทิศทางสุดโต่งเพียงใด กับอำนาจที่เต็มมือของชายผู้แข็งกร้าวที่ชื่อโดนัลด์ ทรัมป์.
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 16:06 59 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:59 30 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:13 40 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:38 48 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:24 28 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:38 48 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:10 54 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:07 54 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:58 87 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:52 58 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:53 77 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:51 76 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:37 70 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:38 94 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:19 143 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 09:58 110 views