การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่เพียงแต่สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แต่ยังจำเป็นสำหรับคนทั่วไปด้วยค่ะ เพราะภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ในระยะยาว มาเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองง่ายๆ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุลกันเถอะ!

น้ำตาลในเลือดคืออะไร? 
น้ำตาลในเลือดคือระดับของน้ำตาลกลูโคสในเลือด ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกายค่ะ โดยระดับปกติควรอยู่ที่:
- ก่อนอาหารเช้า: 90-110 mg/dL  
- หลังอาหาร: ต่ำกว่า 180 mg/dL  
และควรมีค่า HbA1c น้อยกว่า 6.5% ซึ่งบ่งบอกถึงระดับน้ำตาลเฉลี่ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดและหัวใจ

เคล็ดลับการควบคุมน้ำตาลในเลือด

1.ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร  
- เลือกคาร์โบไฮเดรตที่ดี  เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทนคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ผักใบเขียว และพยายามจำกัดปริมาณในแต่ละมื้อ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ไม่ทำให้น้ำตาลพุ่งสูงทันที  
- แบ่งมื้อเล็กๆ  การทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อ ช่วยลดความหิวและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุลมากขึ้น  
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ  ร่างกายต้องการน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวัน เพราะการขาดน้ำอาจทำให้เลือดข้นและระดับน้ำตาลในเลือดสูง  
- ลดน้ำตาลแฝงในเครื่องดื่ม  ควรระวังเครื่องดื่มหวาน เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก น้ำผลไม้กล่อง กาแฟที่เติมน้ำตาลเยอะ เพราะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง  
- จัดจานอาหารตามสูตร 2:1:1  ในแต่ละมื้อ ให้แบ่งจานเป็น ผัก 2 ส่วน แป้ง 1 ส่วน และโปรตีน 1 ส่วน วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำตาล แต่ยังส่งเสริมให้ร่างกายได้รับใยอาหารที่ดีจากผักและลดการกินแป้งเกินจำเป็น  
- ระวังปริมาณผลไม้  ผลไม้มีน้ำตาลฟรุกโตสตามธรรมชาติ ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ เลือกทานผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว  
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์  ถ้าเป็นไปได้ควรงด เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและทำให้ตับทำงานหนัก

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  
การออกกำลังกายช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้มากขึ้นและควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น  จะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน ทำงานบ้าน หรือทำสวนก็ได้ หรือหากสามารถออกกำลังกายที่หนักขึ้นได้ เช่น การวิ่ง ยกน้ำหนัก หรือเต้นแอโรบิก ก็ยิ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงและสมดุลมากขึ้น

3.นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับมีความสำคัญต่อสุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือด การพักผ่อนเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและฮอร์โมนต่างๆ ทำงานสมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนอินซูลินที่จะช่วยในการควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้นค่ะ พยายามนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

4.ลดความเครียด 
ความเครียดมีผลทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น เช่น คอร์ติซอล ซึ่งจะทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน การฝึกผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือทำกิจกรรมที่เราชอบ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือเล่นโยคะ จะช่วยลดระดับความเครียดและช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้

หากเราปรับตัวตามเคล็ดลับเหล่านี้และมีวินัยในชีวิตประจำวัน เราจะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้อย่างยั่งยืน มาดูแลสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้เพื่อชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาวกัน

ขอบคุณข้อมูล : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ