วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567
5 พ.ย. 2567 15:46 | 78 view
@yaovarest
ทนายความเจ๊อ้อย ได้เดินทางมากองบังคับการปราบปราม เพื่อเข้าให้ปากคำและเปิดเผยว่า 3 วันที่ผ่านมา เจ๊อ้อยได้สอบปากคำคดี 71ล้านบาทและ39ล้านบาท เสร็จไปแล้วกว่า 80 % พร้อมทนายตั้ม พบพนักงานสอบสวน ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความเจ๊อ้อย ได้เดินทางมากองบังคับการปราบปรามและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้เป็นการสอบปากคำวันที่ 4 ของเจ๊อ้อย ซึ่งเน้นในเรื่องของเงิน 71 ล้านบาทเป็นหลัก แล้วก็เรื่องอื่น ๆ เช่น เรื่องของเงินที่จ่ายชดเชยให้คู่สามีภรรยาที่อ้างว่าถูกหลอกจากการว่าจ้างนักแสดงชาวจีน 39 ล้านบาท เงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท เงินเข้าออกแบบบ้านสามีเจ๊อ้อย 3 ล้านบาท และเรื่องรถเบนซ์ 13 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางเจ๊อ้อยได้ให้ปากคำไปแล้วกว่า 80% ซึ่งวันนี้จึงเชื่อว่าเหลืออีกประมาณ 20% สุดท้าย จึงคาดการณ์ว่าน่าจะสอบปากคำจบภายในวันนี้ ตนมองว่าที่ใช้เวลาสอบปากคำหลายวัน เนื่องจากทางตำรวจต้องการเก็บรายละเอียดให้ครบถ้วนและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับคดีนี้
ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 5 ราย รวมทนายความชื่อดัง ทนายสมชาติกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ต้องยอมรับว่าในการให้ปากคำ ได้เชื่อมโยงถึงบุคคลอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนอกจากทนายชื่อดัง เช่น เรื่องเงิน 39 ล้านบาท ที่ให้การเชื่อมโยงกับ ส.เสือ ส่วน ส.เสือ จะเชื่อมโยงกับใครอีกบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและเส้นทางการเงิน
ซึ่งในประเด็นเงิน 39 ล้านบาท บุคคลที่รับเงินได้เดินทางไปกับทนายคนดังกล่าว แต่ตนไม่ทราบว่า ทนายคนดังกล่าวกับ 2 คนที่รับเงินมีความสัมพันธ์กันแบบใด โดยเน้นย้ำว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ฝั่งคนที่รับเงินอ้างว่าถูกหลอก ซึ่งพวกเขาไม่ได้ถูกหลอกจริง ๆ
สำหรับข้อหาในการดำเนินคดี เบื้องต้นตอนนี้เป็นการแจ้งความผิดเกี่ยวกับในเรื่องของทรัพย์สิน แต่จะมีกี่ข้อหาและเรื่องอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ทนายเจ๊อ้อย ยืนยันคำเดิมว่า เจ๊อ้อยไม่เคยให้โดยเสน่หากับทนายคนดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อพบพนักงานสอบสวน พร้อมกับชี้แจงว่า คดีเงิน 71 ล้านบาท ยืนยันตามที่ตนเองได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและตนเองก็มีพยานหลักฐานที่ครบถ้วน ซึ่งทนายตั้มย้ำถึงเหตุผลที่เจ๊อ้อยให้เงิน 71ล้าน ว่า เป็นไปตามที่เคยให้สัมภาษณ์เป็นสื่อมวลชนและพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีเงิน 39 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่าตนและคนที่ชื่อนุกับสา ไม่ได้มาร่วมกันหลอกลวงเจ๊อ้อย โดยทนายตั้มชี้แจงว่า เป็นเพราะเจ๊อ้อยอ้างว่าได้พูดคุยผ่าน IG กับดาราจีนและคิดว่าเป็นบัญชีแอคเคาน์ดาราจีนจริง ๆ จึงเสนอที่จะขอจ้างดาราจีนคนนี้มาออกงาน เลยติดต่อผ่านมายังตน ตนเองจึงได้นำนุและสา ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันและเชี่ยวชาญเรื่องเงิน bitcoin มาช่วยเหลือ เพราะเนื่องจากบัญชี account ดาราคนดังกล่าวอ้างว่า หากจะจ้างต้องจ่ายเป็นเงิน bitcoin เจ๊อ้อยจึงเป็นคนประสานงานกับทั้งสองคนและจ่ายเงินเป็นค่าจ้างเองถึง 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกอ้างว่าโอนไปแล้วเงินมีปัญหาและครั้งที่ 2 พบว่าต้องเข้าบัญชีของบอดี้การ์ด ถึงได้ดำเนินการตรวจสอบกับคนจีนที่ชื่อหลิว ผ่านผู้จัดการดาราชื่อดัง พบว่าบัญชี account ที่เจ๊อ้อยติดต่อเป็นบัญชีสแกมเมอร์ไม่ใช่ดาราจีนคนดัง จริง ๆ โดยทนายตั้มอ้างว่า ตนได้เตือนเจ๊อ้อยเรื่องนี้แล้ว แต่เจ๊อ้อยไม่สนใจและยังโอนเงินไปอีก 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในกรณี รถเบนซ์ อยากให้มีการตรวจสอบว่า รถรุ่น G-class G400 ตามที่ปรากฏในข่าว ราคาเพียงแค่ 8-9 ล้านบาทจริงหรือไม่ พร้อมทั้งย้ำว่า รถคันดังกล่าว ชื่อจดทะเบียนรถคือชื่อของเจ๊อ้อย ไม่ใช่ชื่อไฟแนนซ์ตามที่ปรากฏในข่าวและตนก็ครอบครองเพียงไม่กี่เดือนก่อนจะส่งมอบ ไม่เคยนำรถคันดังกล่าวไปให้ใครยืมตามที่มีข่าวลือ
ข่าว
5 พ.ย. 2567 18:09 47 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 17:05 47 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 16:59 159 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 16:31 41 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 16:21 55 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 16:21 65 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 16:10 60 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 15:46 79 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 14:29 70 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 14:08 69 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 14:04 96 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 14:02 87 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 14:01 108 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 13:54 69 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 13:52 83 views
ข่าว
5 พ.ย. 2567 13:27 93 views